ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

อานุภาพพุทโธ#๓



สัพพัง
อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง
ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ หากข้าพระพุทธเจ้า ...

วิดีโอ

14:50
ทางนิพพาน-พุทโธ
อัปมาโณ
สมพงศ์ อินดัสเตรียล...
www.youtube.com - 7 ธ.ค. 2561
7:25
ทางนิพพาน-พุทโธ
อัปมาโณ
หมดเกิดหมดแก่หมดเจ็บหมดตาย
www.youtube.com - 11 ม.ค. 2562
ที่ว่าวิชชาธรรมกายเป็นทางสายเอก อย่างนี้การปฏิบัติในแนวทางอื่น เช่น พุทโธ ยุบหนอพองหนอ ซึ่งไม่ได้เข้าทางศูนย์กลางกายก็ไม่สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานได้ ใช่ไหมครับ ?
29 ก.ค. 2559 - การที่ใครคนหนึ่งจะหันมาสนใจหลักปฏิบัติทางศาสนานั้นหมายความว่า .... ยกตัวอย่างเช่น หลวงปู่เสาร์ ท่านให้ใช้คำว่า “พุทโธ” เป็นคำภาวนาเวลาทำสมาธิ.
22 ธ.ค. 2560 - หมั่นภาวนา "พุทโธ"ทุกลมหายใจ รับรองตายไปไม่ตกนรก. ... นึกให้เป็นอารมณ์ไปจนชินตัว นึกว่าถ้าตายจาก โลกนี้เมื่อไหร่ขอไปนิพพานเมื่อนั้นให้จิตเป็นฌานที่ เรียกว่า อุปสมานุสสติกรรมฐาน อย่างนี้ทุกคนจะไม่พลาดนิพพาน ... ติดตามข่าวสารทาง Line.
เรื่องทางใจนี่ต้องระวังให้มาก ในเมื่อเราระวังทางใจแล้วระวังทุกอย่าง ทั้ง ๆ ที่มีบาป เราก็ต้องหนีนรกด้วยทางใจเหมือนกัน นั่นคือนึกถึงพระพุทธเจ้า ไว้ พุทโธ อัปปมาโณ ...
13 ก.พ. 2562 - ธรรมเทศนาที่เกี่ยวกับการปฏิบัติในทางจิตภาวนา ... ให้มีอารมณ์เป็นหนึ่งเดียว ไม่คิดนึกเรื่องอื่น ใจตั้งต่อพุทโธ คอยแต่จะสังเกตอาการของจิตที่จะเป็นไป คือ ...
2559 1:00:53 ทางนิพพาน Sompong Tungmepol YouTube - 8 ส.ค. ... ทางนิพพานทางนิพพาน-พุทโธอัปมาโณ www.tangnipparn.com/ สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต ...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทางไปสู่พระนิพพาน 18 ธ ค 57 ค่ำ โดยหลวงพ่ออินทร์ถวาย ณ สวนแสงธรรม

การเกิดมรรคผล

มรรคผลนิพพานไม่ไกลนะ มันไกลสำหรับคนซึ่งไม่รู้จักวิธี#จิตก็ทรงสติปัญญามากขึ้นๆนะ #ตอนที่อริยมรรคจะเกิดเนี่ยไม่ได้ไปรู้รูปนามหรอก #จิตจะรวมเข้าอัปปนาสมาธิตัดการรับรู้ที่แผ่กว้างออกทางตาหูจมูกลิ้นกาย ตัดการรับรู้อันนั้นออกแล้วรวมลงมาที่ใจอันเดียวเห็นไหมสมาธิสำคัญนะ ที่เราฝึกให้มีตัวรู้ๆ เวลาเกิดอริยมรรคมันมาเกิดที่ตัวรู้นี่แหละไม่ไปเกิดที่อื่นหรอก ถ้าเราไม่มีตัวรู้ มีแต่ตัวร่อนเร่ ไปเกิดที่โน่นที่นี่ นั่นเรียกเวียนว่ายตายเกิด ไปเกิดที่อื่น งั้นเราฝึกให้มีตัวรู้ขึ้นมา ท่านจึงสอนในอภิธรรมสอน สัมมาสมาธิเป็นภาชนะที่รองรับองค์มรรคทั้ง ๗ ที่เหลือเข้าด้วยกัน เป็นที่ประชุมขององค์มรรค งั้นจิตประชุมที่ไหน? ประชุมที่จิต ประชุมด้วยอำนาจของสัมมาสมาธิ จิตที่มันตั้งมั่น แล้วสติเกิดที่ไหน? ที่จิต สัมมาสติ สัมมาทิฏฐิ สัมมาวายามะ สัมมาทั้งหลายแหล่เกิดลงที่จิตอันเดียวเลย ประชุมลงที่จิตอันเดียวเลย สัมมาวาจาไม่ได้ไปอยู่ที่ปากแล้ว แต่อยู่ที่จิต สังเกตไหมก่อนปากพูดจิตพูดก่อน สัมมาวาจาตอนที่อริยมรรคเกิดมันพูดอะไรรู้ไหม? มันพูดอย่างนี้ “ ” ได้ยินไหม เนี่ยสัมมาวาจา ถ้ายังอ้าแง๊บๆๆๆเนี่ยมิจฉาวาจานะ งั้นประชุมลงที่จิตเลย องค์มรรค ๘ ประการรวมลงที่จิตอันเดียวด้วยอำนาจของสัมมาสมาธินั่นเองนะ ตรงนี้อัตโนมัติทั้งหมดเลย สติระลึกรู้อยู่แค่จิตโดยไม่เจตนาระลึก สมาธิตั้งมั่นอยู่กับจิตโดยไม่เจตนาตั้งมั่น ปัญญานี่หยั่งซึ้งลงไปในจิต เห็นการทำงานภายในจิตอีกโดยไม่เจตนา สติ สมาธิ ปัญญา รวมลงที่เดียวนี้เอง อริยมรรคก็เกิด ถ้ายังกระจายๆอยู่ไม่เกิดอริยมรรค อริยมรรคมีองค์ ๘ ถามว่าอริยมรรคมีเท่าไหร่ มี ๑ เท่านั้นนะ เวลาเกิดอริยมรรคมี ๑ เท่านั้น แต่มีองค์ประกอบ ๘ อย่าง มรรคไม่ได้มี ๘ มรรคนะ แต่ว่าการเกิดอริยมรรคจะเกิด ๔ ครั้ง โสดาปัตติมรรค สกิทาคามิมรรค อนาคามีมรรค อรหัตมรรค มรรคแต่ละครั้งเกิด ๑ ขณะจิตเท่านั้น ไม่เกิด ๒ ขณะจิต