ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
หยุดเป็นตัวสำเร็จนิพพาน - วิกิพีเดีย https://th.wikipedia.org/wiki/นิพพาน คำว่า นิพพาน เป็นคำที่ใช้กันในปรัชญาหลายระบบในอินเดีย ... ไปสู่สภาวะของนิพพานอย่างคำสอนอุปนิษัท .... อนึ่ง การถกเถียงเรื่องสภาวะของนิพพาน มีมานานเป็นพันปีแล้ว ... #เวลาที่จิตจะเกิดมรรคผลนั้นจิตจะรวมเข้าอัปนาสมาธิ เพราะฉะนั้นเวลาท่านพูดถึงองค์มรรคเนี่ย สัมมาสมาธิ ท่านจะพูดด้วยอัปนาสมาธิ ด้วยฌาน ๔ พวกเราตอนที่เจริญสติอยู่นี่เรียกว่า เจริญบุพพภาคมรรค เบื้องต้นแห่งมรรคยังไม่เป็นฌานนะ #เราหัดเจริญสติอยู่ในชีวิตประจำวันอย่างนี้ถึงวันที่อริยมรรคจะเกิด #จิตจะรวมเข้าฌานโดยอัตโนมัตินะจิตเวลาที่เกิดมรรคเกิดผล จะไม่เกิดในจิตของคนธรรมดา นี่เรียกว่ากามาวจรจิต กามาวจรภูมิ ไม่เป็นอย่างนั้น จะต้องเข้าฌานนะ เมื่อมันรวมเข้าไปแล้วมันจะเห็น สภาวะธรรมนี่เกิดดับสองขณะหรือสามขณะ แต่ละคนไม่เท่ากันนะ ถัดจากนั้นจิตจะวางการรู้อารมณ์ ทวนกระแสเข้ามาหาธาตุรู้ สิ่งที่ห่อหุ้มปกคลุมธาตุรู้อยู่นี่ ถูกอริยมรรคแหวกออกไป แล้วก็มันจะไปเห็นนิพพานนะ นิพพานไม่ใช่ว่างเปล่า นิพพานไม่ใช่โลกๆหนึ่ง พวกเรายังไม่เคยเห็น เราก็วาดภาพสุดโต่งไปสองข้าง ข้างหนึ่งก็นิพพานเป็นโลกๆหนึ่ง พวกนี้พวกสัสตะทิฐิ มีของที่เที่ยงคงที่ อีกพวกหนึ่งคิดว่านิพพานสูญไปเลย ขณะนั้นไม่มีอะไรเหลือเลย กระทั่งสติ พวกนี้หลงไปล่ะ คิดว่านิพพานไม่มีอะไรเลย นี่พวกอุจเฉททิฐินะ นิพพานมีนะ นิพพานมีสภาวะรองรับ สภาวะของนิพพานคือสันติ คือความสงบนั่นเอง สงบจากอะไร สงบจากกิเลส สงบจากอะไร สงบจากความปรุงแต่ง สงบจากอะไร สงบจากการแบกหามขันธ์นะ ดังนั้นเราภาวนานะการปฎิบัติธรรมเนี่ย เราอย่าไปวาดภาพให้มันยุ่งยาก ธรรมะไม่ใช่ของลึกลับ พวกเราชอบคิดว่าธรรมะคืออะไรก็ไม่รู้ ลึกลับ รู้แต่ว่ามันเป็นของดี เราคิดแต่ว่ามันอยู่ไกลๆ เราต้องทำอีกนานๆถึงจะเจอ เราชอบคิดว่าธรรมะอยู่ที่วัด ธรรมะอยู่ที่พระ หรือธรรมะอยู่ที่การเข้าคอร์ส แท้จริงธรรมะไม่ได้พิกลพิการยากไร้ขนาดนั้นหรอก ธรรมะอยู่กับตัวเรามาตั้งแต่เกิด ถ้าพวกเราอยากได้ธรรมะเนี่ย ให้ย้อนมาเรียนที่ตัวธรรมะจริงๆ อะไรเป็นตัวธรรมะตัวจริง กายนี้แหละเป็นธรรมะเรียกว่ารูปธรรม ชื่อมันบอกอยู่แล้วว่ามันเป็นธรรมะ เรียกว่ารูปธรรม ใจของเรานี้แหละเป็นธรรมะ เรียกว่านามธรรม อย่าไปแสวงหาธรรมะที่อื่น หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอนะ จะมาฟังอาตมาพูดกี่วันก็ไม่รู้เรื่องหรอก ธรรมะ(แท้ๆ – ผู้ถอด)เรียนไม่ได้ด้วยการฟัง เรียนไม่ได้ด้วยการอ่าน เรียนไม่ได้ด้วยการคิดๆเอา ทางเดียวที่จะเรียนธรรมะได้นี่นะ คือต้องเรียนจากครูของเราจริงๆ ครูที่จะสอนธรรมะเราได้มีสองคนเท่านั้น คือ รูปกับนามหรือกายกับใจของเรานี่เอง เพราะฉะนั้นหน้าที่ของเราคือ ให้คอยรู้ลงที่กายคอยรู้ลงที่ใจเนืองๆ กายและใจจะสอนธรรมะของจริงให้เราดู คนส่วนใหญ่เที่ยวหาธรรมะภายนอก ก็มีแต่หลงออกไปภายนอก ละเลยที่จะเรียนรู้เรื่องของตัวเอง เพราะฉะนั้นถ้าจะถามว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร พระพุทธเจ้าสอนให้น้อมเข้ามา โอปนยิโก น้อมกลับเข้ามา มาเรียนเรื่องของตัวเราเอง เรียนจนรู้ความจริงว่าความทุกข์มันเกิดได้อย่างไร ทำอย่างไรถึงจะไม่ทุกข์ เพราะฉะนั้นธรรมะในตำราอภิธรรมจะสอน บอกว่าต้องรู้รูปนามต้องรู้กายรู้ใจนะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น