อยู่กับว่างสบายกว่าอยู่กับหลง
สิ้นภพคือสิ้นการทำงานทางใจ สิ้นชาติ สิ้นภพ จบพรหมจรรย์ คือไม่ต้องมีการศึกษาเรียนรู้การปฏิบัติธรรมใดๆอีกแล้วนะ งานทำเสร็จแล้ว เพราะใจปล่อยวางไปหมดแล้ว ใจพ้นจากการปรุงแต่ง พ้นจากการทำงานแล้ว
เนี่ย พ้นไปได้อย่างนี้นะ เข้าถึงสันติสุขที่แท้จริง มีแต่ความสุขล้วนๆ ทีนี้จะพ้นได้ก็เพราะมีสติขึ้นมา รู้ทันการปรุงแต่งของกายของใจไป โดยที่ไม่ไปช่วยมันปรุงแต่ง พอเรารู้ทันการปรุงแต่งของกายของใจนะ ใจมันก็จะปรุงสุข ปรุงทุกข์ ปรุงดี ปรุงชั่วอะไรขึ้นมา ก็แล้วแต่มัน ไม่ห้ามมันหรอก ไม่ใช่ว่าจะต้องดีด้วยซ้ำไป ไม่ใช่ฝึกเอาดีนะ ไม่ใช่ฝึกเอาดี ไม่ใช่ฝึกเอาสุข ไม่ได้ฝึกเอาสงบ แต่ฝึกเพื่อเห็นเลยว่า จิตใจมันก็ทำงานของมันไป ในใจเรารู้ทันแล้วก็เป็นกลาง ไม่ไปแตะต้องแล้วก็ไม่ไปทำอะไรมัน
เวทนานั้นอยู่ในขันธ์ ๕ ในขันธ์ ๕ ส่วนใหญ่อยู่ในกองทุกข์ ยกเว้นตัวตัณหาตัวโลภะอะไรพวกนี้ มี ๒ หมวก หมวดนึงอยู่ในกองทุกข์ หมวดนึงอยู่ในกองสมุทัย สิ่งใดเป็นทุกข์สิ่งนั้นต้องรู้ รู้ตามความเป็นจริง เค้าเรียกว่ารู้ทุกข์ ถึงจะเรียกว่าการปฏิบัติด้วยปัญญาอันยิ่ง
งั้นอย่างจะนั่งสมาธิปวดเมื่อยขึ้นมาจะนั่งทนเอาชนะเวทนาเนี่ย อันนี้ทำผิดแล้วไม่ได้ทำด้วยปัญญาอันยิ่ง แต่ทำเพราะโลภะมันหนุนหลังอยู่ ถ้าทำสำเร็จนะนั่งสำเร็จไม่กระดุกกระดิกได้จนมันหายเมื่อยไป มันก็กูเก่งขึ้นมาอีก
งั้นที่ท่านสอนนะแต่ละคำๆของท่านมีความหมาย เราเวลาทรงจำแล้วอย่าให้มันแหว่งไป #สิ่งที่ควรเจริญด้วยปัญญาอันยิ่งคือ#สมถะและวิปัสสนา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น