เรียนอภิญญา หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ภาวนา "สัมปจิตฉามิ" ของเก่าฝึกมาหมด 2560

การฝึกอภิญญานั้น มีวิธีเดียว คือ ฝึกกสิณ10 ในฌาน 4 หรือ กสิณ10 ในฌาน 8


ถึงแม้ในอดีตชาติ จะเคยฝึกได้มาแล้ว จนมีฤทธิ์ เหาะเหินเดินอากาศ ได้อย่างสบายๆ

ถึงแม้ชาติก่อนจะเกิดเป็นองค์มหาเทพเทวา ผู้ทรงฤทธิ์ธานุภาพ อำนาจ เป็นที่เกรงขามไปทั้ง3โลก

แต่หากแม้ ยังต้องเกิดอยู่อีก

คุณก็จะต้องเริ่มฝึกใหม่ตั้งแต่ต้น แต่ก็จะได้เปรียบชาวบ้านเค้า ตรงที่ เรียนรู้ได้เร็วกว่า มีความคล่องตัวในการใช้ฤทธิ์มากกว่า เพราะมีของเก่าติดตัวมา แค่ทบทวนนิดหน่อยก็เป็นแล้ว เหมือนกับคนที่ขี่จักรยานเป็นแล้ว แม้ไม่ได้ขี่สัก10ปี แต่ถ้าได้ลองขี่ ก็ยังสามารถขี่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น

ขอเพิ่มรายละเอียดนิดหนึ่งครับ
สำหรับผู้ที่เคยได้อภิญญามาในชาติที่แล้ว ในชาตินี้สามารถฝึกวิธีลัดได้ คือ สามารถข้ามขั้นตอนการฝึกกสิณ ไปได้เลยครับ

สำหรับผู้ที่เคยได้อภิญญามาในอดีตชาติิ ให้ภาวนา "สัมปจิตฉามิ" เมื่อของเก่ากลับคืนมาแล้ว สามารถอธิษฐานฤทธิ์ ในฌาน4 ได้ทันที โดยไม่ต้องฝึกกสิณ

สำหรับผู้ปฏิบัติธรรมในอัชฌาสัยอภิญญา ให้ฝึกทรงฌาน4 เอาไว้ แล้วอภิญญาเก่าจะค่อยๆปรากฎ แล้วก็นำไปใช้ได้ทันที

สำหรับผู้ปฏิบัติธรรมในอัชฌาสัยปฏิสัมภิทาญาณ ให้ฝึกทรงฌาน8 เอาไว้ และ ต้องตัดสังโยชน์ให้ได้5 ข้อ เมื่อเข้าสู่พระอนาคามี(มรรค)(ยากตรงนี้ครับ) พลังแห่งปฏิสัมภิทาญาณจึงเริ่มปรากฏ และได้พลังแห่งปฏิสัมภิทาญาณครบถ้วนเมื่อ บรรลุอรหัตผล

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทางไปสู่พระนิพพาน 18 ธ ค 57 ค่ำ โดยหลวงพ่ออินทร์ถวาย ณ สวนแสงธรรม

การเกิดมรรคผล

มรรคผลนิพพานไม่ไกลนะ มันไกลสำหรับคนซึ่งไม่รู้จักวิธี#จิตก็ทรงสติปัญญามากขึ้นๆนะ #ตอนที่อริยมรรคจะเกิดเนี่ยไม่ได้ไปรู้รูปนามหรอก #จิตจะรวมเข้าอัปปนาสมาธิตัดการรับรู้ที่แผ่กว้างออกทางตาหูจมูกลิ้นกาย ตัดการรับรู้อันนั้นออกแล้วรวมลงมาที่ใจอันเดียวเห็นไหมสมาธิสำคัญนะ ที่เราฝึกให้มีตัวรู้ๆ เวลาเกิดอริยมรรคมันมาเกิดที่ตัวรู้นี่แหละไม่ไปเกิดที่อื่นหรอก ถ้าเราไม่มีตัวรู้ มีแต่ตัวร่อนเร่ ไปเกิดที่โน่นที่นี่ นั่นเรียกเวียนว่ายตายเกิด ไปเกิดที่อื่น งั้นเราฝึกให้มีตัวรู้ขึ้นมา ท่านจึงสอนในอภิธรรมสอน สัมมาสมาธิเป็นภาชนะที่รองรับองค์มรรคทั้ง ๗ ที่เหลือเข้าด้วยกัน เป็นที่ประชุมขององค์มรรค งั้นจิตประชุมที่ไหน? ประชุมที่จิต ประชุมด้วยอำนาจของสัมมาสมาธิ จิตที่มันตั้งมั่น แล้วสติเกิดที่ไหน? ที่จิต สัมมาสติ สัมมาทิฏฐิ สัมมาวายามะ สัมมาทั้งหลายแหล่เกิดลงที่จิตอันเดียวเลย ประชุมลงที่จิตอันเดียวเลย สัมมาวาจาไม่ได้ไปอยู่ที่ปากแล้ว แต่อยู่ที่จิต สังเกตไหมก่อนปากพูดจิตพูดก่อน สัมมาวาจาตอนที่อริยมรรคเกิดมันพูดอะไรรู้ไหม? มันพูดอย่างนี้ “ ” ได้ยินไหม เนี่ยสัมมาวาจา ถ้ายังอ้าแง๊บๆๆๆเนี่ยมิจฉาวาจานะ งั้นประชุมลงที่จิตเลย องค์มรรค ๘ ประการรวมลงที่จิตอันเดียวด้วยอำนาจของสัมมาสมาธินั่นเองนะ ตรงนี้อัตโนมัติทั้งหมดเลย สติระลึกรู้อยู่แค่จิตโดยไม่เจตนาระลึก สมาธิตั้งมั่นอยู่กับจิตโดยไม่เจตนาตั้งมั่น ปัญญานี่หยั่งซึ้งลงไปในจิต เห็นการทำงานภายในจิตอีกโดยไม่เจตนา สติ สมาธิ ปัญญา รวมลงที่เดียวนี้เอง อริยมรรคก็เกิด ถ้ายังกระจายๆอยู่ไม่เกิดอริยมรรค อริยมรรคมีองค์ ๘ ถามว่าอริยมรรคมีเท่าไหร่ มี ๑ เท่านั้นนะ เวลาเกิดอริยมรรคมี ๑ เท่านั้น แต่มีองค์ประกอบ ๘ อย่าง มรรคไม่ได้มี ๘ มรรคนะ แต่ว่าการเกิดอริยมรรคจะเกิด ๔ ครั้ง โสดาปัตติมรรค สกิทาคามิมรรค อนาคามีมรรค อรหัตมรรค มรรคแต่ละครั้งเกิด ๑ ขณะจิตเท่านั้น ไม่เกิด ๒ ขณะจิต