videoplayback 2สัตว์ถือปฏิสนธิครั้งแรก อยู่ในครรภ์ตลอดคืนหนึ่ง ดำเนินไปไม่หวนกลับ เหมือนเมฆหมอกที่ตั้งขึ้นแล้วลอยผ่านไป นรชนทั้งหลายประกอบพร้อมด้วยกำลังพล สู้รบอยู่ในสงคราม จะไม่แก่ไม่ตายก็หาไม่ เพราะว่าสัตว์มีชีวิตนั้นล้วนถูกชาติและชราเบียดเบียน เพราะเหตุนั้นข้าพเจ้าจึงมีความคิดว่าจะประพฤติธรรม พระราชาผู้เป็นใหญ่แห่งแคว้น ทรงข่มขี่ราชาศัตรูผู้มีเสนาประกอบด้วยองค์ ๔ มีรูปร่างน่าสะพรึงกลัว เอาชนะได้ แต่ไม่สามารถเอาชนะเสนาแห่งพญามัจจุราชได้ เพราะเหตุนั้นข้าพเจ้าจึงมีความคิดว่าจะประพฤติธรรม พระราชาบางพวกแวดล้อมด้วยกองทัพช้าง กองทัพม้า กองทัพรถ กองทัพพลเดินเท้า ย่อมพ้นจากเงื้อมมือของปัจจามิตรได้ แต่ไม่อาจทรงพ้นจากพญามัจจุราชได้ เพราะเหตุนั้นข้าพเจ้าจึงมีความคิดว่าจะประพฤติธรรม พระราชาทั้งหลายผู้ทรงกล้าหาญ ทรงหักค่ายทำลายนคร กำจัดมหาชนได้ด้วยกองทัพช้าง กองทัพม้า กองทัพรถ กองทัพพลเดินเท้า แต่ไม่อาจจะทรงหักรานพญามัจจุราชได้ เพราะเหตุนั้นข้าพเจ้าจึงมีความคิดว่าจะประพฤติธรรม ช้างทั้งหลายที่กำลังตกมัน มีมันไหลเยิ้ม ย่อมย่ำยีบ้านเมือง เข่นฆ่าประชาชนได้ แต่ไม่อาจย่ำยีพญามัจจุราชได้ เพราะเหตุนั้นข้าพเจ้าจึงมีความคิดว่าจะประพฤติธรรม นายขมังธนูทั้งหลายผู้มีฝีมือฝึกปรือดีแล้ว เป็นผู้กล้าหาญ สามารถยิงไปได้ไกล แม่นยำไม่ผิดพลาด แต่ไม่อาจจะยิงพญามัจจุราชได้ เพราะเหตุนั้นข้าพเจ้าจึงมีความคิดว่าจะประพฤติธรรม สระทั้งหลายย่อมเสื่อมสิ้นไป พื้นปฐพีพร้อมทั้งราวป่าก็หมดสิ้นไป ถึงทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ตลอดกาลนานเข้าก็เสื่อมสิ้นไป เพราะสังขารทั้งหลายย่อมแตกสลายไปตามกาลกำหนด เพราะเหตุนั้นข้าพเจ้าจึงมีความคิดว่าจะประพฤติธรรม แท้จริงชีวิตของเหล่าสัตว์ทั้งปวงทั้งหญิงชายในโลกนี้ มีสภาพหวั่นไหว ปั่นป่วน เหมือนแผ่นผ้าของนักเลง เหมือนต้นไม้ที่เกิดใกล้ฝั่ง เพราะเหตุนั้นข้าพเจ้าจึงมีความคิดว่าจะประพฤติธรรม ทั้งคนหนุ่ม ทั้งคนแก่ ทั้งหญิง ทั้งชาย ทั้งบัณเฑาะก์ ย่อมมีกายแตกทำลายไปเหมือนผลไม้หล่นจากต้น เพราะเหตุนั้นข้าพเจ้าจึงมีความคิดว่าจะประพฤติธรรม

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทางไปสู่พระนิพพาน 18 ธ ค 57 ค่ำ โดยหลวงพ่ออินทร์ถวาย ณ สวนแสงธรรม

การเกิดมรรคผล

มรรคผลนิพพานไม่ไกลนะ มันไกลสำหรับคนซึ่งไม่รู้จักวิธี#จิตก็ทรงสติปัญญามากขึ้นๆนะ #ตอนที่อริยมรรคจะเกิดเนี่ยไม่ได้ไปรู้รูปนามหรอก #จิตจะรวมเข้าอัปปนาสมาธิตัดการรับรู้ที่แผ่กว้างออกทางตาหูจมูกลิ้นกาย ตัดการรับรู้อันนั้นออกแล้วรวมลงมาที่ใจอันเดียวเห็นไหมสมาธิสำคัญนะ ที่เราฝึกให้มีตัวรู้ๆ เวลาเกิดอริยมรรคมันมาเกิดที่ตัวรู้นี่แหละไม่ไปเกิดที่อื่นหรอก ถ้าเราไม่มีตัวรู้ มีแต่ตัวร่อนเร่ ไปเกิดที่โน่นที่นี่ นั่นเรียกเวียนว่ายตายเกิด ไปเกิดที่อื่น งั้นเราฝึกให้มีตัวรู้ขึ้นมา ท่านจึงสอนในอภิธรรมสอน สัมมาสมาธิเป็นภาชนะที่รองรับองค์มรรคทั้ง ๗ ที่เหลือเข้าด้วยกัน เป็นที่ประชุมขององค์มรรค งั้นจิตประชุมที่ไหน? ประชุมที่จิต ประชุมด้วยอำนาจของสัมมาสมาธิ จิตที่มันตั้งมั่น แล้วสติเกิดที่ไหน? ที่จิต สัมมาสติ สัมมาทิฏฐิ สัมมาวายามะ สัมมาทั้งหลายแหล่เกิดลงที่จิตอันเดียวเลย ประชุมลงที่จิตอันเดียวเลย สัมมาวาจาไม่ได้ไปอยู่ที่ปากแล้ว แต่อยู่ที่จิต สังเกตไหมก่อนปากพูดจิตพูดก่อน สัมมาวาจาตอนที่อริยมรรคเกิดมันพูดอะไรรู้ไหม? มันพูดอย่างนี้ “ ” ได้ยินไหม เนี่ยสัมมาวาจา ถ้ายังอ้าแง๊บๆๆๆเนี่ยมิจฉาวาจานะ งั้นประชุมลงที่จิตเลย องค์มรรค ๘ ประการรวมลงที่จิตอันเดียวด้วยอำนาจของสัมมาสมาธินั่นเองนะ ตรงนี้อัตโนมัติทั้งหมดเลย สติระลึกรู้อยู่แค่จิตโดยไม่เจตนาระลึก สมาธิตั้งมั่นอยู่กับจิตโดยไม่เจตนาตั้งมั่น ปัญญานี่หยั่งซึ้งลงไปในจิต เห็นการทำงานภายในจิตอีกโดยไม่เจตนา สติ สมาธิ ปัญญา รวมลงที่เดียวนี้เอง อริยมรรคก็เกิด ถ้ายังกระจายๆอยู่ไม่เกิดอริยมรรค อริยมรรคมีองค์ ๘ ถามว่าอริยมรรคมีเท่าไหร่ มี ๑ เท่านั้นนะ เวลาเกิดอริยมรรคมี ๑ เท่านั้น แต่มีองค์ประกอบ ๘ อย่าง มรรคไม่ได้มี ๘ มรรคนะ แต่ว่าการเกิดอริยมรรคจะเกิด ๔ ครั้ง โสดาปัตติมรรค สกิทาคามิมรรค อนาคามีมรรค อรหัตมรรค มรรคแต่ละครั้งเกิด ๑ ขณะจิตเท่านั้น ไม่เกิด ๒ ขณะจิต