ศาสนาพุทธตอบโจทย์อยู่ข้อเดียว ไม่ตอบว่าใครสร้างโลก ไม่ตอบว่ามนุษย์มีกรรมมาตั้งแต่บรรพบุรุษ จริงหรือไม่จริง ไม่ตอบเรื่องอื่นๆ เลย ศาสนาพุทธตอบอยู่เรื่องเดียว ว่าทำยังไงจะไม่ทุกข์ ต้องการแค่นี้เอง มีชีวิตอยู่โดยไม่มีความทุกข์ มันดีไหม ถึงเปลือกนอกจะนับถือศาสนาอื่น แต่ถ้ารู้ศาสตร์ของพระพุทธเจ้าแล้ว มันไม่ทุกข์หรอก คำสอนของพระพุทธเจ้า ศาสนาพุทธเป็นคำตอบโดยตรงเลยว่า เรามีวิธีปฏิบัติยังไง เราจึงจะไม่ทุกข์ เราสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ต้องเชื่อ ... พระพุทธเจ้าไม่ใช่พระเจ้า ไม่สามารถบันดาลอะไรให้เราได้สักอย่างเดียว แต่ท่านสอนวิธีที่ทำให้เราหายโง่ คนมีความทุกข์เพราะโง่ ไม่เพราะอย่างอื่นเลย วิธีที่จะไม่โง่ก็คือ เห็นโลกอย่างที่โลกเป็น เมื่อเช้าบอกแล้ว โลกคือ รูปนาม กายใจ เห็นกายอย่างที่กายเป็น เห็นใจอย่างที่ใจเป็น แล้วหายโง่ทำอย่างไรจะไม่ทุกข์ :: หลวงพ่อปราโมทย์ 9 ก.พ. 2562 (ไฟล์ 620209B ซีดี 80)

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทางไปสู่พระนิพพาน 18 ธ ค 57 ค่ำ โดยหลวงพ่ออินทร์ถวาย ณ สวนแสงธรรม

การเกิดมรรคผล

มรรคผลนิพพานไม่ไกลนะ มันไกลสำหรับคนซึ่งไม่รู้จักวิธี#จิตก็ทรงสติปัญญามากขึ้นๆนะ #ตอนที่อริยมรรคจะเกิดเนี่ยไม่ได้ไปรู้รูปนามหรอก #จิตจะรวมเข้าอัปปนาสมาธิตัดการรับรู้ที่แผ่กว้างออกทางตาหูจมูกลิ้นกาย ตัดการรับรู้อันนั้นออกแล้วรวมลงมาที่ใจอันเดียวเห็นไหมสมาธิสำคัญนะ ที่เราฝึกให้มีตัวรู้ๆ เวลาเกิดอริยมรรคมันมาเกิดที่ตัวรู้นี่แหละไม่ไปเกิดที่อื่นหรอก ถ้าเราไม่มีตัวรู้ มีแต่ตัวร่อนเร่ ไปเกิดที่โน่นที่นี่ นั่นเรียกเวียนว่ายตายเกิด ไปเกิดที่อื่น งั้นเราฝึกให้มีตัวรู้ขึ้นมา ท่านจึงสอนในอภิธรรมสอน สัมมาสมาธิเป็นภาชนะที่รองรับองค์มรรคทั้ง ๗ ที่เหลือเข้าด้วยกัน เป็นที่ประชุมขององค์มรรค งั้นจิตประชุมที่ไหน? ประชุมที่จิต ประชุมด้วยอำนาจของสัมมาสมาธิ จิตที่มันตั้งมั่น แล้วสติเกิดที่ไหน? ที่จิต สัมมาสติ สัมมาทิฏฐิ สัมมาวายามะ สัมมาทั้งหลายแหล่เกิดลงที่จิตอันเดียวเลย ประชุมลงที่จิตอันเดียวเลย สัมมาวาจาไม่ได้ไปอยู่ที่ปากแล้ว แต่อยู่ที่จิต สังเกตไหมก่อนปากพูดจิตพูดก่อน สัมมาวาจาตอนที่อริยมรรคเกิดมันพูดอะไรรู้ไหม? มันพูดอย่างนี้ “ ” ได้ยินไหม เนี่ยสัมมาวาจา ถ้ายังอ้าแง๊บๆๆๆเนี่ยมิจฉาวาจานะ งั้นประชุมลงที่จิตเลย องค์มรรค ๘ ประการรวมลงที่จิตอันเดียวด้วยอำนาจของสัมมาสมาธินั่นเองนะ ตรงนี้อัตโนมัติทั้งหมดเลย สติระลึกรู้อยู่แค่จิตโดยไม่เจตนาระลึก สมาธิตั้งมั่นอยู่กับจิตโดยไม่เจตนาตั้งมั่น ปัญญานี่หยั่งซึ้งลงไปในจิต เห็นการทำงานภายในจิตอีกโดยไม่เจตนา สติ สมาธิ ปัญญา รวมลงที่เดียวนี้เอง อริยมรรคก็เกิด ถ้ายังกระจายๆอยู่ไม่เกิดอริยมรรค อริยมรรคมีองค์ ๘ ถามว่าอริยมรรคมีเท่าไหร่ มี ๑ เท่านั้นนะ เวลาเกิดอริยมรรคมี ๑ เท่านั้น แต่มีองค์ประกอบ ๘ อย่าง มรรคไม่ได้มี ๘ มรรคนะ แต่ว่าการเกิดอริยมรรคจะเกิด ๔ ครั้ง โสดาปัตติมรรค สกิทาคามิมรรค อนาคามีมรรค อรหัตมรรค มรรคแต่ละครั้งเกิด ๑ ขณะจิตเท่านั้น ไม่เกิด ๒ ขณะจิต