กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน เมืองเวสาลี Ashokan Pillar, Vaishaliถ้าเมื่อไรเรารู้ทันว่าจิตไหลไป หลงไป เมื่อนั้น จิตผู้รู้จะเกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ เราทำจิตผู้รู้ขึ้นมาไม่ได้ แต่จิตผู้รู้เกิดขึ้นเอง เมื่อเรามีสติรู้ทันจิตผู้หลง หรือจิตผู้ไหล หรือจิตผู้ฟุ้งซ่านไปทางทวารทั้งหก ทันทีที่สติรู้ ว่าจิตเคลื่อนไป คือจิตฟุ้งซ่านไป มีสติรู้ทันปั๊บ ความฟุ้งซ่านดับทันที เพราะว่ากิเลส คือความฟุ้งซ่าน จะไม่เกิดร่วมกับสติ เพราะอย่างนั้น เราฝึกสติ ไม่ได้ฝึกให้ไม่มีกิเลส แต่ว่ามีกิเลสแล้วรู้ๆ แล้วสติจะเกิดเอง พอสติเกิด กิเลสดับ ฉะนั้น การดูจิต จะไม่มีกิเลสให้ละ จำไว้ ไม่ได้ฝึกเพื่อละกิเลส เพราะไม่มีกิเลสให้ละ ทันทีที่สติเกิด กิเลสดับไปแล้ว ไม่เห็นต้องละ ค่อยๆ ฝึกไป สุดท้ายมรรคผลก็เกิด ศีล สมาธิ ปัญญา ของเราเต็ม ปัญญาคือเห็นไตรลักษณ์ มีสติรู้เท่าทัน รูปธรรม นามธรรมที่กำลังปรากฏ มีสมาธิ คือมีใจตั้งมั่นอยู่กับเนื้อกับตัว ฝึกไปเรื่อย สุดท้ายมรรคผลก็เกิดขึ้น ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องอดทน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทางไปสู่พระนิพพาน 18 ธ ค 57 ค่ำ โดยหลวงพ่ออินทร์ถวาย ณ สวนแสงธรรม

การเกิดมรรคผล

มรรคผลนิพพานไม่ไกลนะ มันไกลสำหรับคนซึ่งไม่รู้จักวิธี#จิตก็ทรงสติปัญญามากขึ้นๆนะ #ตอนที่อริยมรรคจะเกิดเนี่ยไม่ได้ไปรู้รูปนามหรอก #จิตจะรวมเข้าอัปปนาสมาธิตัดการรับรู้ที่แผ่กว้างออกทางตาหูจมูกลิ้นกาย ตัดการรับรู้อันนั้นออกแล้วรวมลงมาที่ใจอันเดียวเห็นไหมสมาธิสำคัญนะ ที่เราฝึกให้มีตัวรู้ๆ เวลาเกิดอริยมรรคมันมาเกิดที่ตัวรู้นี่แหละไม่ไปเกิดที่อื่นหรอก ถ้าเราไม่มีตัวรู้ มีแต่ตัวร่อนเร่ ไปเกิดที่โน่นที่นี่ นั่นเรียกเวียนว่ายตายเกิด ไปเกิดที่อื่น งั้นเราฝึกให้มีตัวรู้ขึ้นมา ท่านจึงสอนในอภิธรรมสอน สัมมาสมาธิเป็นภาชนะที่รองรับองค์มรรคทั้ง ๗ ที่เหลือเข้าด้วยกัน เป็นที่ประชุมขององค์มรรค งั้นจิตประชุมที่ไหน? ประชุมที่จิต ประชุมด้วยอำนาจของสัมมาสมาธิ จิตที่มันตั้งมั่น แล้วสติเกิดที่ไหน? ที่จิต สัมมาสติ สัมมาทิฏฐิ สัมมาวายามะ สัมมาทั้งหลายแหล่เกิดลงที่จิตอันเดียวเลย ประชุมลงที่จิตอันเดียวเลย สัมมาวาจาไม่ได้ไปอยู่ที่ปากแล้ว แต่อยู่ที่จิต สังเกตไหมก่อนปากพูดจิตพูดก่อน สัมมาวาจาตอนที่อริยมรรคเกิดมันพูดอะไรรู้ไหม? มันพูดอย่างนี้ “ ” ได้ยินไหม เนี่ยสัมมาวาจา ถ้ายังอ้าแง๊บๆๆๆเนี่ยมิจฉาวาจานะ งั้นประชุมลงที่จิตเลย องค์มรรค ๘ ประการรวมลงที่จิตอันเดียวด้วยอำนาจของสัมมาสมาธินั่นเองนะ ตรงนี้อัตโนมัติทั้งหมดเลย สติระลึกรู้อยู่แค่จิตโดยไม่เจตนาระลึก สมาธิตั้งมั่นอยู่กับจิตโดยไม่เจตนาตั้งมั่น ปัญญานี่หยั่งซึ้งลงไปในจิต เห็นการทำงานภายในจิตอีกโดยไม่เจตนา สติ สมาธิ ปัญญา รวมลงที่เดียวนี้เอง อริยมรรคก็เกิด ถ้ายังกระจายๆอยู่ไม่เกิดอริยมรรค อริยมรรคมีองค์ ๘ ถามว่าอริยมรรคมีเท่าไหร่ มี ๑ เท่านั้นนะ เวลาเกิดอริยมรรคมี ๑ เท่านั้น แต่มีองค์ประกอบ ๘ อย่าง มรรคไม่ได้มี ๘ มรรคนะ แต่ว่าการเกิดอริยมรรคจะเกิด ๔ ครั้ง โสดาปัตติมรรค สกิทาคามิมรรค อนาคามีมรรค อรหัตมรรค มรรคแต่ละครั้งเกิด ๑ ขณะจิตเท่านั้น ไม่เกิด ๒ ขณะจิต