ทุกข์ร้อยแปด - ชาย เมืองสิงห์[Official MV].กลัวแล้ว ตายแล้ว กลัวแล้ว เจ้าข้า... ความทุกข์เจ้าขา เวทนาลูกบ้าง.. ..ยากดีมีจน ละก็ไม่พ้นกองเวร ทุกข์ยาก ทุกข์เย็น ไม่วายเว้น หม่นหมาง ดินฟ้าเหี้ยมโหด โกรธเคืองเกลียดชัง ละไม่สงสาร ลูกช้าง โถช่าง กระไร ...เกิดเป็นคนจน ก็ต้องทน อดออม แต่งตัว ออมชอม ยอมทุกข์ ทนได้ ทุกข์อด ทุกข์อยาก ลำบาก ลำบน ทุกข์เกิด มาจน บ่นไปไฉน ข้าวสาร กรอกหม้อ เราจะไปขอ ทานใคร ทนหิว ทนโหย โอ๊ยโอยปวดใจ ก็ยากจน ยากจนเสียเมื่อไร อยากกอดเข่า ร้องไห้ ทุกข์ไม่ มีกิน เกิดเป็นชาวนา โถต้องหน้าดำ ลำบาก ตรากตรำ จำทุกข์ ทั้งสิ้น หากเทวดา ละฝนฟ้าอำนวย ก็เหมือนได้ช่วย ปลดหนี้ ปลดสิน ถ้าฝนสั่งฟ้า ลงมาท่วมดิน นาล่มปีไหน ไม่มีข้าวกิน ต้องแต่งตัว แต่งตัวขาดวิ่น ทุกข์ไม่สร่างสิ้น นอนกับดิน กินกับทราย Solo 6 Bars...5... 6...ทุกข์.... ..มีรักมีสุข มีทุกข์แน่นหนัก ที่ไหนมีรัก มักมีทุกข์ง่ายๆ ทุกข์ รูปไม่หล่อ ทุกข์ พ่อไม่รวย ทุกข์ แฟนไม่สวย สำรวย เฉิดฉาย ทุกข์ ไร้เงินแสน ทุกข์ แฟนกลับกลาย สาว แก่แม่หม้าย ทุกข์ชายไม่แล อนึ่งจนทนทุกข์ ละจนมีลูก มีเต้า สุขกินเกลือคลุกข้าว อยู่จนเถ้า จนแก่ เกิดมี ลูกชาย ก็หวังใจ จะได้บวช ชาวบ้าน ก็สวด กันกระแหนะ กระแหน พ่อนาค เนื้อหอม มีสาวมาตรอม เกาะแจ กลัวไม่พ้น พรรษา ละสีกา ชะแง้ ห่วงบ้าน ห่วงบ้าน จะแย่ ละเพราะสีกา ท้องแก่ ทุกข์แย่ เชียวแม่คุณ เกิดเป็น ผู้หญิง ซิทุกข์ยิ่ง กว่าใคร ทุกข์น่า เห็นใจ ละวุ่นวาย ว้าวุ่น เกิดเป็น ลูกเลี้ยง แม่เลี้ยง ก็ด่า ทุกข์โศรก ไม่สร่างซา ละด่าว่า เฉียวฉุน พอหลง เมียน้อย พลอยลืม บาปบุญ ไอ้จะรีบ มีผัว ก็ทุกข์กลัว ขาดทุน แม่เอย ละแม่เอย แม่คุณ ตักบาตร ทำบุญ เอาไว้เถิด สบาย Solo 6 Bars...5... 6...โอ้ย... ..แต่ฉันมีทุกข์ มีทุกข์ มากกว่า ทุกข์นัก ทุกข์หนา ละเบื่อละอา แหนงหน่าย ทุกข์ไม่อยากมีลูก ทุกข์ไม่อยากมีเมีย กลัวลูกดก ยั้วเยี้ย ทุกข์เมีย ห่างหาย สาวสาว หนุ่มหนุ่ม กลุ้มจริง กลุ้มใจ ทุกข์ไม่ อยากตาย ทุกข์จัง ธรรมดา ทุกข์ขลัง ทุกข์ขลัง อนัตตา ทุกข์จัง ทุกข์จัง ชาวนา ทุกข์จัง ทุกข์จัง ธรรมดา พอข้าวราคาดี มีราคา ไอ้พอจะทำ นาปัง ทำไมน้ำยัง ไม่มา ทุกข์จัง ทุกข์จัง ธรรมดา

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทางไปสู่พระนิพพาน 18 ธ ค 57 ค่ำ โดยหลวงพ่ออินทร์ถวาย ณ สวนแสงธรรม

การเกิดมรรคผล

มรรคผลนิพพานไม่ไกลนะ มันไกลสำหรับคนซึ่งไม่รู้จักวิธี#จิตก็ทรงสติปัญญามากขึ้นๆนะ #ตอนที่อริยมรรคจะเกิดเนี่ยไม่ได้ไปรู้รูปนามหรอก #จิตจะรวมเข้าอัปปนาสมาธิตัดการรับรู้ที่แผ่กว้างออกทางตาหูจมูกลิ้นกาย ตัดการรับรู้อันนั้นออกแล้วรวมลงมาที่ใจอันเดียวเห็นไหมสมาธิสำคัญนะ ที่เราฝึกให้มีตัวรู้ๆ เวลาเกิดอริยมรรคมันมาเกิดที่ตัวรู้นี่แหละไม่ไปเกิดที่อื่นหรอก ถ้าเราไม่มีตัวรู้ มีแต่ตัวร่อนเร่ ไปเกิดที่โน่นที่นี่ นั่นเรียกเวียนว่ายตายเกิด ไปเกิดที่อื่น งั้นเราฝึกให้มีตัวรู้ขึ้นมา ท่านจึงสอนในอภิธรรมสอน สัมมาสมาธิเป็นภาชนะที่รองรับองค์มรรคทั้ง ๗ ที่เหลือเข้าด้วยกัน เป็นที่ประชุมขององค์มรรค งั้นจิตประชุมที่ไหน? ประชุมที่จิต ประชุมด้วยอำนาจของสัมมาสมาธิ จิตที่มันตั้งมั่น แล้วสติเกิดที่ไหน? ที่จิต สัมมาสติ สัมมาทิฏฐิ สัมมาวายามะ สัมมาทั้งหลายแหล่เกิดลงที่จิตอันเดียวเลย ประชุมลงที่จิตอันเดียวเลย สัมมาวาจาไม่ได้ไปอยู่ที่ปากแล้ว แต่อยู่ที่จิต สังเกตไหมก่อนปากพูดจิตพูดก่อน สัมมาวาจาตอนที่อริยมรรคเกิดมันพูดอะไรรู้ไหม? มันพูดอย่างนี้ “ ” ได้ยินไหม เนี่ยสัมมาวาจา ถ้ายังอ้าแง๊บๆๆๆเนี่ยมิจฉาวาจานะ งั้นประชุมลงที่จิตเลย องค์มรรค ๘ ประการรวมลงที่จิตอันเดียวด้วยอำนาจของสัมมาสมาธินั่นเองนะ ตรงนี้อัตโนมัติทั้งหมดเลย สติระลึกรู้อยู่แค่จิตโดยไม่เจตนาระลึก สมาธิตั้งมั่นอยู่กับจิตโดยไม่เจตนาตั้งมั่น ปัญญานี่หยั่งซึ้งลงไปในจิต เห็นการทำงานภายในจิตอีกโดยไม่เจตนา สติ สมาธิ ปัญญา รวมลงที่เดียวนี้เอง อริยมรรคก็เกิด ถ้ายังกระจายๆอยู่ไม่เกิดอริยมรรค อริยมรรคมีองค์ ๘ ถามว่าอริยมรรคมีเท่าไหร่ มี ๑ เท่านั้นนะ เวลาเกิดอริยมรรคมี ๑ เท่านั้น แต่มีองค์ประกอบ ๘ อย่าง มรรคไม่ได้มี ๘ มรรคนะ แต่ว่าการเกิดอริยมรรคจะเกิด ๔ ครั้ง โสดาปัตติมรรค สกิทาคามิมรรค อนาคามีมรรค อรหัตมรรค มรรคแต่ละครั้งเกิด ๑ ขณะจิตเท่านั้น ไม่เกิด ๒ ขณะจิต