บทความ
กำลังแสดงโพสต์จาก มกราคม, 2019
videoplayback 1วิปัสสนาไล่ขึ้นไปเรื่อย ถึงสังขารุเบกขาญาณวิปัสสนาสูงสุดแล้วสังขารุเบกขาญาณคือจิตมันเห็นความจริงจนกระทั่งมันเป็นกลางกับความปรุงแต่งทั้งปวงเห็นเลยสุขกับทุกข์นั้นเท่าเทียมกัน เพราะว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาเหมือนกัน กุศล อกุศล ทั้งหลายเท่าเทียมกัน ด้วยความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาเหมือนกัน#จิตยอมรับความจริงว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเสมอกันหมดใจที่ภาวนามาถึงจุดนี้จะรู้สึกโลกนี้ราบเป็นหน้ากลอง เสมอกันไปหมดเลย ดูไปนี่นะใจมันไม่กระเพื่อมขึ้นมานะ ชอบคนนี้เกลียดคนนี้ไม่มีเลย ตัวนั้นน่ะใจเข้าไปสู่ความเป็นกลางด้วยปัญญา #ถัดจากนั้นกระบวนการเกิดอริยมรรคถึงจะเกิดขึ้นก็จะมีตั้งแต่อนุโลมญาณสัจจานุโลมิกญาณโคตรภูญาณมัคคญาณผลญาณปัจจเวกขณญาณในกระบวนการที่เกิดอริยมรรคก็มีตั้งแต่อนุโลมญาณโคตรภูญาณมัคคญาณผลญาณอยู่ในกระบวนการที่จะเกิดอริยมรรค #กระบวนการนี้จบแล้วยังจะเกิดญาณตัวที่สิบหกปัจจเวกขณญาณทวนเข้าไปพิจารณาว่าตอนที่เกิดอริยมรรคนั้นล้างกิเลสอะไรไปบ้างกิเลสอะไรยังไม่ล้างจะทวนเข้าไปดูก็รู้ว่างานยังไม่เสร็จถ้างานเสร็จแล้วก็ทวนเข้าไปดูเห็นความเสร็จแล้วจิตจะไปพิจารณานิพพานได้แล้วไปทำความรู้แจ้งในตัวนิโรธ
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
เอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขง - รุ่งฤดี แพ่งผ่องใสเอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขง ให้มันไหลลงไหลลง ไหลลง ไหล ลงทะเล ...เบื่อ ความรักจากคนร้อยเล่ห์ เล่ห์ลวงลึกกว่าทะเล สุดคาดคะเน สุดนับคณา ...เอาความทุกข์ยากฝากธาราใส ให้มันไหลไป ไหลไปไหลไปมิให้ หวนมา ...ช่วย กลบฝังความหลังของข้า บทเรียนรักด้วยน้ำตา แม่โขงเจ้าขา ช่วยกลบช่วยกลืน ...แม้ความเจ็บปวด เหมือนกรวดทราย ถมทิ้งลงไปแม่โขงทั้งสายคงกลายเขินตื้น ...ถ้าความเจ็บช้ำ เป็นน้ำก็คงท่วมพื้น รสชาติบาดแผลขมขื่น แม่โขงช่วยกลืน ให้ไกลแสนไกล ...เอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขง ให้มันไหลลงไหลลง ไหลลงไหล ลงลับไป โอ้ แม่โขงที่โค้งคดไกลเปรียบยังมิเท่าน้ำใจ คดเคี้ยวเชี่ยวไหล กว่าลำโขงเอย ดนตรี 6 Bars..4...5... 6.เอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขง ให้มันไหลลงไหลลงไหลลง ไหลลง ลับไป โอ้ แม่โขงที่โค้งคดไกลเปรียบยังมิเท่าน้ำใจ คดเคี้ยวเชี่ยวไหล กว่าลำโขงเอย
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
บ้านเกิดเมืองนอนบ้านเมืองเรารุ่งเรืองพร้อมอยู่หมู่เหล่า พวกเราล้วนพงศ์เผ่าศิวิไลซ์ เพราะฉะนั้นควรจะยินดี เปรมปรีดิ์ดีใจเรียกตนว่าไทย แดนดินผืนใหญ่มิใช่ทาษเขา ก่อนนี้มีเขตแดนนับว่ากว้างใหญ่ ได้ไว้พลีเลือดเนื้อแลกเอา รบ รบ รบ ไม่หวั่นใคร มอบความเป็นไทยพวกเรา แต่ครั้งนานกาลเก่า ชาติเราเขาเรียกชาติไทย บ้านเมืองควรประเทืองไว้ดั่งแต่ก่อน แน่นอนเนื้อและเลือดพลีไป เพราะฉะนั้นเราควรเปรมปรีดิ์ มีความภูมิใจแดนดินถิ่นไทย รวบรวมไว้ได้แสนจะยากเข็ญ ยากแค้นเคยกู้แดนไว้อย่างบากบัน ก่อนนั้นเคยแตกฉานซ่านเซ็น แม้กระนั้นยังร่วมใจ รวบรวมชาวไทยให้ร่มเย็น บัดนี้ไทยดีเด่น ร่มเย็นผาสุกเรื่อยมา อยู่กินบนแผ่นดินท้องถิ่นกว้างใหญ่ ชาติไทยนั้นเคยใหญ่ในบูรพา ทุก ๆ เช้าเราดูธงไทย ใจจงปรีดาว่าไทยอยู่มา ด้วยความผาสุกถาวรสดใส บัดนี้ไทยเจริญวิสุทธิ์ผุดผ่อง พี่น้องจงแซ่ร้องชาติไทย รักษาไว้ให้มั่นคง เทอญธงไตรรงค์ให้เด่นไกล ชาติเชื้อเรายิ่งใหญ่ ชาติไทยบ้านเกิดเมืองนอน
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
บ้านเกิดเมืองนอนบ้านเมืองเรารุ่งเรืองพร้อมอยู่หมู่เหล่า พวกเราล้วนพงศ์เผ่าศิวิไลซ์ เพราะฉะนั้นควรจะยินดี เปรมปรีดิ์ดีใจเรียกตนว่าไทย แดนดินผืนใหญ่มิใช่ทาษเขา ก่อนนี้มีเขตแดนนับว่ากว้างใหญ่ ได้ไว้พลีเลือดเนื้อแลกเอา รบ รบ รบ ไม่หวั่นใคร มอบความเป็นไทยพวกเรา แต่ครั้งนานกาลเก่า ชาติเราเขาเรียกชาติไทย บ้านเมืองควรประเทืองไว้ดั่งแต่ก่อน แน่นอนเนื้อและเลือดพลีไป เพราะฉะนั้นเราควรเปรมปรีดิ์ มีความภูมิใจแดนดินถิ่นไทย รวบรวมไว้ได้แสนจะยากเข็ญ ยากแค้นเคยกู้แดนไว้อย่างบากบัน ก่อนนั้นเคยแตกฉานซ่านเซ็น แม้กระนั้นยังร่วมใจ รวบรวมชาวไทยให้ร่มเย็น บัดนี้ไทยดีเด่น ร่มเย็นผาสุกเรื่อยมา อยู่กินบนแผ่นดินท้องถิ่นกว้างใหญ่ ชาติไทยนั้นเคยใหญ่ในบูรพา ทุก ๆ เช้าเราดูธงไทย ใจจงปรีดาว่าไทยอยู่มา ด้วยความผาสุกถาวรสดใส บัดนี้ไทยเจริญวิสุทธิ์ผุดผ่อง พี่น้องจงแซ่ร้องชาติไทย รักษาไว้ให้มั่นคง เทอญธงไตรรงค์ให้เด่นไกล ชาติเชื้อเรายิ่งใหญ่ ชาติไทยบ้านเกิดเมืองนอน
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ฟังธรรม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ สังโยชน์ของพระโสดาบัน
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
โลกสลาย สวรรค์ล่ม พรหมพินาศ กาลพินาศต้องเกิดกับทุกภพภูมิ #สัตว์ที่อยู่ในสังสารวัฏอันประกอบด้วย๓๑ภพภูมิตกอยู่ภายใต้ #กฏแห่งไตรลักษณ์ ” ทั้งสิ้น #ทุกภูมิจะถูกทำลายด้วยไฟน้ำลม ในคราวที่โลกถูกทำลายด้วยไฟ ไฟจะลุกไหม้ตั้งแต่อบายภูมิ มนุษยภูมิ เทวภูมิ จนถึงปฐมฌานภูมิ ๓ ถูกทำลายทั้งหมด คราวที่โลกถูกทำลายด้วยน้ำจะท่วมตั้งแต่อบายภูมิ มนุษยภูมิ เทวภูมิ ปฐมฌานภูมิ ๓ ทุติยฌานภูมิ ๓ ถูกทำลายทั้งหมด คราวที่โลกถูกทำลายด้วยลม ลมจะพัดทำลายตั้งแต่อบายภูมิ มนุษยภูมิ เทวภูมิ ปฐมฌานภูมิ ๓ ทุติยฌานภูมิ ๓ ตติยฌานภูมิ ๓ จะถูกทำลายทั้งหมด ภูมิที่พ้นจากการถูกทำลายด้วยไฟ น้ำ ลม คือ จตุตถฌานภูมิ และ อรูปภูมิ อายุของสัตว์ในภูมิ ๓๑ ต่อไปจะได้พรรณนาถึงอายุของเทวดาพรหมทั้งหลาย จะได้เห็นว่าการได้ไปเสวยสุขที่โลกสวรรค์นั้นมีอายุเท่าไรบ้าง และอายุของสัตว์นรกว่ามีอายุเสวยผลอกุศลกรรมเท่าไรบ้าง ทำบุญแล้วอธิษฐานให้เกิดในสวรรค์ ในอรรถกถาธรรมบท กล่าวเรื่องเวลาของสวรรค์เทียบกับมนุษย์ไว้ดังนี้:- ในดาวดึงส์เทวโลกเทวบุตรองค์หนึ่งชื่อว่า มาลาภารี ไปเที่ยวชมอุทยานพร้อมกับหมู่เทพอัปสร เทพธิดาองค์หนึ่งจุติ ในขณะที่กำล
พระคันธกุฎี เขาคิชกูฏ นครราชคฤห์ - Khundhakuti Gridhkut- Rajgir
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ธรรมชาติเดิมแท้ของเรานั้นเป็นสิ่งๆ หนึ่ง ซึ่งไม่มีการตั้งต้นที่การเกิด และไม่มีการสิ้นสุดลงที่การตาย แต่เป็นของสิ่งเดียวกันรวด และปราศจากการเคลื่อนไหวใดๆ ในส่วนลึกจริงๆ ของมันทั้งหมด จิตของเรากับสิ่งต่างๆ ซึ่งแวดล้อมเราอยู่นั้นเป็นสิ่งๆ เดียวกัน ถ้าเราทำความเข้าใจได้ตามนี้จริงๆ เราจะได้ลุถึงความรู้แจ้งเห็นแจ้งได้โดยแวบเดียวในขณะนั้น และเราเป็นผู้ที่ไม่ต้องเกี่ยวข้องในโลกทั้งสามอีกต่อไป เราจะเป็นผู้อยู่เหนือโลก เราไม่มีการโน้มเอียงไปสู่การเกิดใหม่อีกแม้แต่นิดเดียว เราจะเป็นแต่ตัวเราเองเท่านั้น
2. วิปัสสนาญาณ ๑๖ - ท่านเจ้าคุณโชดกhttps://www.youtube.com/watch?v=pMghJBHoeW0&t=53s
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้นทุกข์เท่านั้นที่ตั้งอยู่ทุกข์เท่านั้นที่ดับไปอานิสงส์ของการประพฤติพรหมจรรย์
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
สถานที่ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ พุทธคยา - Bodhgayaอานิสงส์ของการประพฤติพรหมจรรย์
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
อานิสงส์ของการประพฤติพรหมจรรย์อานิสงส์ของการประพฤติพรหมจรรย์
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
อานิสงส์ของการประพฤติพรหมจรรย์อานิสงส์ของการประพฤติพรหมจรรย์
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่อง มรณสัญญา#อรหันตสูตรว่าด้วยพระอรหันต์เป็นผู้เลิศในโลกพระนครสาวัตถี ฯลฯดูกรภิกษุทั้งหลายรูปไม่เที่ยง ฯลฯเวทนาไม่เที่ยง ฯลฯสัญญาไม่เที่ยง ฯลฯสังขารไม่เที่ยง ฯลฯ วิญญาณไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา สิ่งใดเป็นอนัตตา สิ่งนั้นควรเห็นตามความเป็นจริงด้วยปัญญาอันชอบ อย่างนี้ว่านั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา. #ดูกรภิกษุทั้งหลายอริยสาวกผู้ได้สดับแล้วเห็นอยู่อย่างนี้ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในรูปทั้งในเวทนาทั้งในสัญญาทั้งในสังขารทั้งในวิญญาณเมื่อเบื่อหน่ายย่อมคลายกำหนัดเพราะคลายกำหนัดจิตย่อมหลุดพ้น. เมื่อหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว. ย่อมรู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี. ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระอรหันต์ทั้งหลาย เป็นผู้เลิศ เป็นผู้ประเสริฐสุดในโลก กว่าสัตตาวาสและภวัคคภพ. พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นได้ตรัสไวยากรณภาษิตนี้ จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปว่า [๑๕๓] พระอรหันต์ทั้งหลาย มีความสุขหนอ เพราะท่านไม่มีตัณหา ตัดอัสมิมานะได้เด็ดขาด ทำลายข่ายคือโมหะได้แล้ว. พระอรหันต์เหล่านั้น ถึงซึ่งความไม่หวั่นไหว มีจิตไม่ขุ่นมัว ท่านเหล่านั้นไม่แปดเปื้อนแล้ว ด้วยเครื่องแปดเปื้อนคือตัณหาและทิฏฐิในโลก เป็นผู้ประเสริฐ ไม่มีอาสวะ. เป็นสัตบุรุษ เป็นพุทธบุตร เป็นพุทธโอรส กำหนดรู้เบญจขันธ์มีสัทธรรม ๗ เป็นโคจร ควรสรรเสริญ. ท่านมหาวีรบุรุษ ผู้สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ ศึกษาแล้วในไตรสิกขา ละความกลัวและความขลาดได้เด็ดขาดแล้ว ย่อมท่องเที่ยวไป โดยลำดับ. ท่านมหานาคผู้สมบูรณ์ด้วยองค์ ๑๐ ประการ มีจิตตั้งมั่นประเสริฐสุดในโลก ท่านเหล่านั้นไม่มีตัณหา. มีอเสขญาณเกิดขึ้นแล้ว มีร่างกายนี้เป็นครั้งสุดท้าย ไม่ต้องอาศัยผู้อื่น ในคุณที่เป็นแก่นสารแห่งพรหมจรรย์. ท่านเหล่านั้นไม่หวั่นไหวเพราะมานะ หลุดพ้นจากภพใหม่ ถึงอรหัตภูมิแล้ว ชนะเด็ดขาดแล้วในโลก. ท่านเหล่านั้น ไม่มีความเพลิดเพลินอยู่ในส่วนเบื้องบน ท่ามกลาง และเบื้องล่าง เป็นพุทธผู้ยอดเยี่ยมในโลก ย่อมบันลือสีหนาท. จบ สูตรที่ ๔. ๕. อรหันตสูตรที่ ๒ ว่าด้วยพระอรหันต์เป็นผู้เลิศในโลก [๑๕๔] พระนครสาวัตถี ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปไม่เที่ยง ฯลฯ เวทนาไม่เที่ยง ฯลฯ สัญญาไม่เที่ยง ฯลฯ สังขารไม่เที่ยง ฯลฯ วิญญาณไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา สิ่งใดเป็นอนัตตา สิ่งนั้นควรเห็นตามความเป็นจริงด้วยปัญญาอันชอบ อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในรูป ทั้งในเวทนา ทั้งในสัญญา ทั้งในสังขาร ทั้งในวิญญาณ เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด เพราะคลายกำหนัด จิตย่อมหลุดพ้น. เมื่อหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว. ย่อมรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี. ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระอรหันต์ทั้งหลายเป็นผู้เลิศ เป็นผู้ประเสริฐสุดในโลก กว่าสัตตาวาสและภวัคคภพ. จบ สูตรที่ ๕.
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่อง มรณสัญญา#อรหันตสูตรว่าด้วยพระอรหันต์เป็นผู้เลิศในโลกพระนครสาวัตถี ฯลฯดูกรภิกษุทั้งหลายรูปไม่เที่ยง ฯลฯเวทนาไม่เที่ยง ฯลฯสัญญาไม่เที่ยง ฯลฯสังขารไม่เที่ยง ฯลฯ วิญญาณไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา สิ่งใดเป็นอนัตตา สิ่งนั้นควรเห็นตามความเป็นจริงด้วยปัญญาอันชอบ อย่างนี้ว่านั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา. #ดูกรภิกษุทั้งหลายอริยสาวกผู้ได้สดับแล้วเห็นอยู่อย่างนี้ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในรูปทั้งในเวทนาทั้งในสัญญาทั้งในสังขารทั้งในวิญญาณเมื่อเบื่อหน่ายย่อมคลายกำหนัดเพราะคลายกำหนัดจิตย่อมหลุดพ้น. เมื่อหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว. ย่อมรู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี. ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระอรหันต์ทั้งหลาย เป็นผู้เลิศ เป็นผู้ประเสริฐสุดในโลก กว่าสัตตาวาสและภวัคคภพ. พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นได้ตรัสไวยากรณภาษิตนี้ จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปว่า [๑๕๓] พระอรหันต์ทั้งหลาย มีความสุขหนอ เพราะท่านไม่มีตัณหา ตัดอัสมิมานะได้เด็ดขาด ทำลายข่ายคือโมหะได้แล้ว. พระอรหันต์เหล่านั้น ถึงซึ่งความไม่หวั่นไหว มีจิตไม่ขุ่นมัว ท่านเหล่านั้นไม่แปดเปื้อนแล้ว ด้วยเครื่องแปดเปื้อนคือตัณหาและทิฏฐิในโลก เป็นผู้ประเสริฐ ไม่มีอาสวะ. เป็นสัตบุรุษ เป็นพุทธบุตร เป็นพุทธโอรส กำหนดรู้เบญจขันธ์มีสัทธรรม ๗ เป็นโคจร ควรสรรเสริญ. ท่านมหาวีรบุรุษ ผู้สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ ศึกษาแล้วในไตรสิกขา ละความกลัวและความขลาดได้เด็ดขาดแล้ว ย่อมท่องเที่ยวไป โดยลำดับ. ท่านมหานาคผู้สมบูรณ์ด้วยองค์ ๑๐ ประการ มีจิตตั้งมั่นประเสริฐสุดในโลก ท่านเหล่านั้นไม่มีตัณหา. มีอเสขญาณเกิดขึ้นแล้ว มีร่างกายนี้เป็นครั้งสุดท้าย ไม่ต้องอาศัยผู้อื่น ในคุณที่เป็นแก่นสารแห่งพรหมจรรย์. ท่านเหล่านั้นไม่หวั่นไหวเพราะมานะ หลุดพ้นจากภพใหม่ ถึงอรหัตภูมิแล้ว ชนะเด็ดขาดแล้วในโลก. ท่านเหล่านั้น ไม่มีความเพลิดเพลินอยู่ในส่วนเบื้องบน ท่ามกลาง และเบื้องล่าง เป็นพุทธผู้ยอดเยี่ยมในโลก ย่อมบันลือสีหนาท. จบ สูตรที่ ๔. ๕. อรหันตสูตรที่ ๒ ว่าด้วยพระอรหันต์เป็นผู้เลิศในโลก [๑๕๔] พระนครสาวัตถี ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปไม่เที่ยง ฯลฯ เวทนาไม่เที่ยง ฯลฯ สัญญาไม่เที่ยง ฯลฯ สังขารไม่เที่ยง ฯลฯ วิญญาณไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา สิ่งใดเป็นอนัตตา สิ่งนั้นควรเห็นตามความเป็นจริงด้วยปัญญาอันชอบ อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในรูป ทั้งในเวทนา ทั้งในสัญญา ทั้งในสังขาร ทั้งในวิญญาณ เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด เพราะคลายกำหนัด จิตย่อมหลุดพ้น. เมื่อหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว. ย่อมรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี. ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระอรหันต์ทั้งหลายเป็นผู้เลิศ เป็นผู้ประเสริฐสุดในโลก กว่าสัตตาวาสและภวัคคภพ. จบ สูตรที่ ๕.
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
videoplayback 3
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
การเจริญวิปัสสนากรรมฐานเป็นการหันมาเผชิญหน้าและเรียนรู้ ความ จริงของทุกข์ เมื่อทุกข์อยู่ที่กายก็มีสติระลึกรู้กายตามความเป็นจริง เมื่อทุกข์ อยู่ที่จิตก็มีสติตามรู้จิตตามความเป็นจริง จนในที่สุดก็สามารถเข้าถึงความจริงสูงสุดคืออริยสัจจ์ข้อแรกได้ คือการรู้ทุกข์ ได้แก่การรู้ความจริงว่ากายนี้ใจนี้ไม่ใช่ตัวเรา ผู้ที่รู้ความจริงนี้เรียกว่าพระโสดาบัน เป็นผู้ละความเห็นผิดว่ากายกับใจคือตัวเรา เมื่อตามรู้กายและตามรู้ใจต่อไปอีก ถึงจุดหนึ่งจิตจะวางความยึดถือกายและใจลงได้อย่างสิ้นเชิง และไม่หยิบฉวยเอากายและใจขึ้นมาถือไว้ให้เป็นภาระกดถ่วงจิตใจอีกต่อไป เมื่อไม่ยึดถือกายและใจแล้ว ความดิ้นรนทะยานอยากของจิตที่จะให้กาย และใจมีความสุขและพ้นจากความทุกข์ ทั้งด้วยการแสวงหา อารมณ์ที่เพลิดเพลินพอใจ การทำความสงบจิต และการหลีกหนีการรับรู้อารมณ์หยาบๆ ก็จะหมดสิ้นไป การรู้ทุกข์อย่างแจ่มแจ้งจึงเป็นเครื่องทำลายสมุทัยหรือตัณหาให้ดับสนิทลงโดยอัตโนมัติ เมื่อปราศจากตัณหา จิตก็ได้ประจักษ์แจ้งถึงนิโรธหรือนิพพานอันเป็นสภาวธรรมซึ่งสงบสันติ ปราศจากทุกข์และกิเลสตัณหาทั้งปวง การรู้ทุกข์จนสมุทัยถูกละไปเองและนิโรธปรากฏให้ประจักษ์
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เทศน์ เรื่อง บุคคลที่จะเข้าถึงนิพพานพอจิตดวงเก่ามันดับไป จิตที่อยู่ในภพภูมิต่างๆมันดับไป มันทวนกระแสเข้าหาจิตที่เหนือภพเหนือภูมิ ทวนกระแสเข้ามา ขณะที่มันปล่อยวางจิตดวงเดิมนะ แล้วก็ทวนเข้ามาแต่ยังไม่ถึงธาตุรู้นะ คาบลูกคาบดอก ไม่ได้เกาะขันธ์แล้วนะ แต่ก็ยังเข้ามาไม่ถึงตัวธาตุรู้ ไม่ถึงอมตะธาตุอมตะธรรม ไม่ถึงพระนิพพาน ธาตุรู้ไม่ใช่พระนิพพานนะ แต่ธาตุรู้ไปเห็นพระนิพพาน ต้องแยกให้ออก มันยังทวนไม่ถึงธาตุรู้ ไม่ใช่ปุถุชน ไม่ใช่พระอริยะ ทำไมไม่ใช่ปุถุชน เพราะมันปล่อยขันธ์แล้ว ขันธ์สุดท้ายที่มันปล่อยก็คือจิต ไม่ใช่พระอริยะ เพราะยังไม่เข้ามาถึงธาตุรู้ ไม่เข้าถึงพระนิพพาน ตัวธาตุรู้นั่นแหละเป็นตัวไปเห็นพระนิพพาน ตรงนี้นะเรียกว่าโคตรภูญาณ ญาณข้ามโคตร มีปัญญาข้ามโคตร ข้ามโคตรจากโคตรไหนมาสู่โคตรไหน? จากโคตรของปุถุชนมาสู่โคตรของอริยชน เพราะงั้นบรรลุมรรคผลแล้วเปลี่ยนโคตรนะ ข้ามจากสกุลของปุถุชน ข้ามมาสู่อริยวงศ์อริยโคตร เรียกญาณข้ามโคตร ไม่ใช่ปุถุชนนะ กำลังข้ามอยู่ ไม่ใช่พระอริยะ มีอยู่ขณะจิตเดียวแหละที่คาบลูกคาบดอกประหลาดอยู่อย่างนี้ ข้ามมา ทวนเข้ามาถึงจิตแท้ ถึงธาตุรู้แท้ๆ ธรรมธาตุ ตัวนี้อริยมรรคก็จะเกิดขึ้น อาสวกิเลสที่ห่อหุ้มจิตอยู่ถูกอริยมรรคแหวกออกทำลายออก ก็ล้างกิเลส ล้างในพริบตาเดียว ในขณะเดียว วับเดียวเลย ขาดเลย มันคล้ายๆเปิดสวิตซ์ไฟ ปั๊บ สว่างวุ๊บเดียวความมืดหายไปเลย ในพริบตานั้นเลย จากนั้นนะจะเห็นพระนิพพานอีกสองสามขณะ เห็นไม่เท่ากันหรอก บางคนเห็นสองขณะ บางคนเห็นสามขณะ ถ้าพวกอินทรีย์กล้ามากๆก็เห็นสามขณะ พวกอินทรีย์ยังไม่กล้ามากก็เห็นสองขณะนะ งั้นพระอริยะในภูมิธรรมอันเดียวกันระดับเดียวกัน ความรู้ความเข้าใจไม่เท่ากัน ความแตกฉานอะไรนี้ไม่เท่ากัน เห็นพระนิพพานแล้วก็รู้ว่านิพพานอยู่ต่อหน้าต่อตา นิพพานไม่เคยหายไปไหน อยู่ต่อหน้าต่อตานี่แหละ แต่โง่เองไม่เห็น ทำไมไม่เห็น? มัวแต่เห็นแต่กาม มัวแต่เห็นรูปภพ มัวแต่เห็นอรูปภพ จิตไม่รู้จักปล่อย ตรงที่เค้าปล่อยน่ะเค้าข้าม เค้าทิ้งแล้ว ตรงโคตรภูญาณที่จิตข้ามโคตร ข้ามจากปุถุชนมาเป็นพระอริยะ ข้ามตรงนี้มันทิ้งหมดเลยนะ มันทิ้งกามภูมิ รูปภูมิ อรูปภูมิ ทิ้งหมดเลย ข้ามมาสู่อริยภูมิ โลกุตรภูมิ ข้ามเอง พวกเราก็มีหน้าที่ภาวนาให้มันพอเท่านั้นแหละนะ ถ้ามันพอเมื่อไหร่มันก็ข้ามโคตรไป เปลี่ยนสกุลไม่ใช่นามสกุลเดิม โดยสมมุติบัญญัติก็เป็นนามสกุลเดิม โดยปรมัตถ์แท้ๆก็ไม่ใช่แล้ว ก็มาเป็นลูกพระพุทธเจ้า
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
Dalai Lama starts eating pizza during interview#นิพพานสูตรสฬายตนวรรคสังยุตตนิกาย ท่านก็พูดถึงว่า ราคากฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย นี่เรียกว่า นิพพาน ชัมพุขาทกะ ถามว่า นิพพานคืออะไร พระสารีบุตรก็ตอบว่า ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย อิทํ วุจฺจติ นิพฺพานํ คือนิพพานา เขาถามต่อไปว่า ท่านผู้มีอายุ ปฏิปทาก็ดี มรรคก้ดี ที่จะทำให้แจ้งซึ่งนิพพานมีหรือไม่ พระสารีบุตรก็ตอบว่ามีอยู่ นั่นก็คือมรรคมีองค์ ๘ เขาก็ถามต่อไปว่า ท่านผู้มีอายุ คำว่าอรหัตดังนี้ อย่างไรเรียกว่าอรหัต พระสารีบุตรก็ตอบอย่างเดิมว่า สิ้นราคะ โทสะ โมหะ เรียกว่า อรหัต เขาก็ถามหนทางปฏิปทาเพื่อจะทำให้แจ้งซึ่งพระอรหัต พระสารีบุตร ก็ตอบว่า มรรคมีองค์ ๘ นั่นเอง เป็นทางให้แจ้งซึ่งอรหัต เขาถามต่อไปว่า คนที่เรยกว่าธรรมวาทีเป็นอย่างไร คนที่เรียกว่าปฏิบัติชอบเป็นอย่างไร คนที่เรียกว่าไปดีแล้วเป็นอย่างไร พระสารีบุตรก็ตอบว่า #ผู้ใดแสดงธรรมเพื่อละราคะเพื่อละโทสะเพื่อละโมหะ ผู้นั้นเรียกว่าธรรมวาทีผุ้ใดปฏิบัติเพื่อละราคะโทสะโมหะผู้นั้นเรียกว่าสุปฏิปันโนผู้ใดละราคะโทสะโมหะได้หมดแล้วไม่เกิดขึ้นอีกผู้นั้นเรียกว่าเป็นสุคโตเป็นผู้ไปดีแล้ว
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
บทสวด พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ครั้งพุทธกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อครั้งเสด็จไปโปรดพุทธมารดา ได้ยกพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ เพื่อตอบแทนพระคุณของมารดา จึงเลือกธรรมะ แสดงแก่พุทธมารดาฟังที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พร้อมทั้งเหล่าเทวดาทุกชั้นที่พากันมาฟังธรรมที่ชั้นดาวดึงส์ เหตุที่ทรงเสด็จสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพราะเป็นสวรรค์ชั้นกลางๆ เทวดาชั้นต่ำก็สามารถขึ้นไปฟังได้ ชั้นที่สูงกว่าก็ลงมาฟังได้ ทำให้เหล่าเทวดาทั้งหลาย ได้บรรลุธรรมพร้อมกัน มีพระโสดาบัน เป็นเบื้องต่ำ และอนาคามีเป็นเบื้องสูง พุทธมารดาทรงจุติที่สวรรค์ชั้นดุสิต เป็นสวรรค์ชั้นสูงกว่าดาวดึงส์ ใช้เวลาในการแสดง ๓ เดือน (๑ พรรษา) ปัจจุบันพระสงฆ์จึงใช้ธรรมะหมวดอภิธรรมเป็นบทสวด เนื่องในการสวดอภิธรรมศพ สาเหตุที่มีประเพณีการสวดพระอภิธรรมหน้าศพ นั้น ตามวัตถุประสงค์จริง ๆ แล้ว เป็นการสวดให้คนที่มาร่วมงานฟัง เพื่อให้มีสติระลึกถึงอยู่เสมอว่า ความตายสามารถมาเยือนได้ทุกวินาที ทุกลมหายใจเข้าออก ไม่ควรประมาทในการใช้ชีวิตแต่ควรเร่งประกอบคุณงามความดี ทำบุญทำกุศลให้มาก เพื่อที่จะได้เป็นเสบียงเดินทางไปสู่ภพหน้าที่ ดี ๆ ยิ่งขึ้นและมีบารมีที่จะบรรลุธรรมในอนาคตกาลเบื้องหน้าด้วย แต่ความเข้าใจของเจ้าภาพมักเป็นการเข้าใจว่าสวดให้ศพฟัง เพื่อจะได้สู่สุคติสัมปรายภพเบื้องหน้า และถือเป็นประเพณีสืบทอดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
พระพุทธเจ้าสอน ให้เรา เรียนจนรู้ความจริงว่าความทุกข์มันเกิดได้อย่างไร ทำ...
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
พระพุทธเจ้าสอน ให้เรา เรียนจนรู้ความจริงว่าความทุกข์มันเกิดได้อย่างไร ทำ...
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
พระพุทธเจ้าท่านเคยเทียบ บอกว่าจิตของเราเนี่ย ที่แสวงหาความหลุดพ้นเนี่ยนะ เหมือนท่อนไม้ลอยอยู่ในแม่น้ำคงคา ท่านไม่ยกว่าเป็นแม่น้ำเจ้าพระยานะ ท่านยกแม่น้ำคงคา บอกว่า ท่านชี้ให้พระดูท่อนไม้ลอยน้ำ ท่านบอกว่าไม้ท่อนนี้นะ ถ้ามันลอยไปเรื่อยๆ มันไม่ไปติดฝั่งซ้าย ไม่ไปติดฝั่งขวา ไม่ไปเกยตื้น ไม่ไปติดเกาะอะไรอย่างนี้นะ ไม่ไปถูกมนุษย์จับไว้ ไม่ถูกอมนุษย์จับไว้ ไม่ถูกเกลียวน้ำวน ไม่เน่าใน ไม่ผุพังเสียเอง ถึงวันหนึ่งมันจะไปสู่ทะเล จิตซึ่งมีสัมมาทิฎฐิ สิ่งที่พวกเราเรียนจากหลวงพ่อคือตัวสัมมาทิฎฐินั่นเอง จิตซึ่งมีสัมมาทิฎฐิรู้ทิศทางว่าเราจะทำอะไรเพื่ออะไรจะทำอย่างไร ระหว่างทำไม่หลงไม่เผลอ จิตมันมีสัมมาทิฎฐิอยู่อย่างนี้ ระดับเบื้องต้นซึ่งเรียกว่า “สัมปชัญญะ” รู้ทิศทาง รู้แนวทาง จิตที่มีสัมมาทิฎฐินั้นนะ มีแนวโน้ม น้อมโน้ม โน้มเอียง ลาดลุ่ม ไปสู่นิพพาน เหมือนท่อนไม้นี้ไหลตามน้ำไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ไปติดฝั่งซ้ายฝั่งขวา เกยตื้น ไม่ถูกมนุษย์ อมนุษย์ จับไว้ ไม่เน่าใน ไม่ถูกน้ำวนดูดไปนะ ไม้ท่อนนี้ต้องไปถึงทะเล จิตซึ่งมีสัมมาทิฎฐิ จิตของเรานี้ไม่ต้องไปทำอะไรมัน อย่าไปเกยอยู่ที่ไหนก็แล้วกัน มันจะไหลไปสู่นิพพานเอง จ
อยู่กับว่างสบายกว่าอยู่กับหลง
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
สิ้นภพคือสิ้นการทำงานทางใจ สิ้นชาติ สิ้นภพ จบพรหมจรรย์ คือไม่ต้องมีการศึกษาเรียนรู้การปฏิบัติธรรมใดๆอีกแล้วนะ งานทำเสร็จแล้ว เพราะใจปล่อยวางไปหมดแล้ว ใจพ้นจากการปรุงแต่ง พ้นจากการทำงานแล้ว เนี่ย พ้นไปได้อย่างนี้นะ เข้าถึงสันติสุขที่แท้จริง มีแต่ความสุขล้วนๆ ทีนี้จะพ้นได้ก็เพราะมีสติขึ้นมา รู้ทันการปรุงแต่งของกายของใจไป โดยที่ไม่ไปช่วยมันปรุงแต่ง พอเรารู้ทันการปรุงแต่งของกายของใจนะ ใจมันก็จะปรุงสุข ปรุงทุกข์ ปรุงดี ปรุงชั่วอะไรขึ้นมา ก็แล้วแต่มัน ไม่ห้ามมันหรอก ไม่ใช่ว่าจะต้องดีด้วยซ้ำไป ไม่ใช่ฝึกเอาดีนะ ไม่ใช่ฝึกเอาดี ไม่ใช่ฝึกเอาสุข ไม่ได้ฝึกเอาสงบ แต่ฝึกเพื่อเห็นเลยว่า จิตใจมันก็ทำงานของมันไป ในใจเรารู้ทันแล้วก็เป็นกลาง ไม่ไปแตะต้องแล้วก็ไม่ไปทำอะไรมัน เวทนานั้นอยู่ในขันธ์ ๕ ในขันธ์ ๕ ส่วนใหญ่อยู่ในกองทุกข์ ยกเว้นตัวตัณหาตัวโลภะอะไรพวกนี้ มี ๒ หมวก หมวดนึงอยู่ในกองทุกข์ หมวดนึงอยู่ในกองสมุทัย สิ่งใดเป็นทุกข์สิ่งนั้นต้องรู้ รู้ตามความเป็นจริง เค้าเรียกว่ารู้ทุกข์ ถึงจะเรียกว่าการปฏิบัติด้วยปัญญาอันยิ่ง งั้นอย่างจะนั่งสมาธิปวดเมื่อยขึ้นมาจะนั่งทนเอาชนะเวทนาเนี่ย อันนี้ทำผิดแล้วไม่ได
พระพุทธเจ้าสอน ให้เรา เรียนจนรู้ความจริงว่าความทุกข์มันเกิดได้อย่างไร ทำ...
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
การบรรลุมรรคผล
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
#เราภาวนาจนเห็นว่าทุกอย่างชั่วคราวสุขทุกข์ดีชั่วทั้งหลายชั่วคราวทั้งหมดตรงนี้แหละใจจะเป็นกลางกับทุกสิ่งทุกอย่างตัวนี้แหละคือสิ่งเรียกว่า #สังขารุเบกขาญานจิตมีปัญญานะเป็นกลางกับความปรุงแต่งทั้งหลายสุขทุกข์ดีชั่วทั้งหลายจิตเป็นกลางหมดเลยเพราะอะไรเพราะปัญญาไม่ใช่กลางเพราะการเพ่งไม่ใช่เป็นกลางเพราะกำหนดนะกำหนดแล้วเป็นกลางนี่ยังไม่ใช่ต้องเป็นกลางเพราะปัญญา ถ้าเราตามรู้จิตใจของเราทุกวันๆ เราจะเห็นเลย ความสุขอยู่ชั่วคราว แล้วก็หาย ความทุกข์อยู่ชั่วคราวแล้วก็หาย โลภ โกรธ หลง อยู่ชั่วคราว แล้วก็หาย กุศลอยู่ชั่วคราวแล้วก็หายไป ถ้าตามดูอย่างนี้นานๆไปนะ จิตมันยอมรับความจริงว่า #สิ่งใดเกิดขึ้นสิ่งนั้นดับไปความสุขเกิดขึ้นจิตไม่หลงระเริงความทุกข์เกิดขึ้นจิตไม่กลุ้มใจจิตมันจะเป็นกลางต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่มันไปรู้เข้าจิตที่มันเป็นกลางต่อทุกสิ่งทุกอย่างนี้เป็นตัวสำคัญนี่คือประตูแห่งการบรรลุมรรคผล พอมันเป็นกลางกับทุกสิ่งทุกอย่าง มันจะไม่ปรุงแต่งต่อ อย่างถ้ามันไม่เป็นกลาง มันจะปรุงแต่งต่อ เช่น ความโกรธเกิดขึ้น อยากให้หาย ก็ต้องหาทางทำให้หาย เห็นมั้ยปรุงแต่งต่อล่ะ ความสุขเกิดขึ้นอยากให้อยู่นานๆ ต
มรรคจิต ผลจิต#จิตยอมรับความจริงว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเสมอกันหมดใจที่ภาวนามาถึงจุดนี้จะรู้สึกโลกนี้ราบเป็นหน้ากลอง #ถัดจากนั้นกระบวนการเกิดอริยมรรคถึงจะเกิดขึ้นก็จะมีตั้งแต่อนุโลมญาณสัจจานุโลมิกญาณโคตรภูญาณมัคคญาณผลญาณปัจจเวกขณญาณในกระบวนการที่เกิดอริยมรรคก็มีตั้งแต่อนุโลมญาณโคตรภูญาณมัคคญาณผลญาณอยู่ในกระบวนการที่จะเกิดอริยมรรค #กระบวนการนี้จบแล้วยังจะเกิดญาณตัวที่สิบหกปัจจเวกขณญาณทวนเข้าไปพิจารณาว่าตอนที่เกิดอริยมรรคนั้นล้างกิเลสอะไรไปบ้างกิเลสอะไรยังไม่ล้างจะทวนเข้าไปดูก็รู้ว่างานยังไม่เสร็จถ้างานเสร็จแล้วก็ทวนเข้าไปดูเห็นความเสร็จแล้วจิตจะไปพิจารณานิพพานได้แล้วไปทำความรู้แจ้งในตัวนิโรธ
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
มรรคจิต ผลจิต
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
#จิตยอมรับความจริงว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเสมอกันหมดใจที่ภาวนามาถึงจุดนี้จะรู้สึกโลกนี้ราบเป็นหน้ากลอง #ถัดจากนั้นกระบวนการเกิดอริยมรรคถึงจะเกิดขึ้นก็จะมีตั้งแต่อนุโลมญาณสัจจานุโลมิกญาณโคตรภูญาณมัคคญาณผลญาณปัจจเวกขณญาณในกระบวนการที่เกิดอริยมรรคก็มีตั้งแต่อนุโลมญาณโคตรภูญาณมัคคญาณผลญาณอยู่ในกระบวนการที่จะเกิดอริยมรรค #กระบวนการนี้จบแล้วยังจะเกิดญาณตัวที่สิบหกปัจจเวกขณญาณทวนเข้าไปพิจารณาว่าตอนที่เกิดอริยมรรคนั้นล้างกิเลสอะไรไปบ้างกิเลสอะไรยังไม่ล้างจะทวนเข้าไปดูก็รู้ว่างานยังไม่เสร็จถ้างานเสร็จแล้วก็ทวนเข้าไปดูเห็นความเสร็จแล้วจิตจะไปพิจารณานิพพานได้แล้วไปทำความรู้แจ้งในตัวนิโรธ
สถานที่ปรินิพพาน กุสินารา Mahaparinirvana Temple - Kushinagar
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
เอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม ฯ อะถะโข อัญญะตะรา เทวะตา อะภิกกันตายะ รัตติยา อะภิกกันตะวัณณา เกวะละกัปปัง เชตะวะนัง โอภาเสตวา เยนะ ภะคะวา เตนุปะสังกะมิตวา ภะคะวันตัง อะภิวาเทตวา เอกะมันตัง อัฏฐาสิ ฯ เอกะมันตัง ฐิตา โข สา เทวะตา ภะคะวันตัง คาถายะ อัชฌะภาสิฯ พะหู เทวา มะนุสสา จะ มังคะลานิ อะจินตะยุง อากังขะมานา โสตถานัง พรูหิ มังคะละมุตตะมังฯ อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ วินะโย จะ สุสิกขิโต สุภาสิตา จะ ยา วาจา เอตัมมังคะละมุตตะมัง มาตาปิตุอุปัฏฐานัง ปุตตะ ทารัสสะ สังคะโห อะนากุลา จะ กัมมันตา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ ญาตะกานัญจะ สังคะโห อะนะวัชชานิ กัมมานิ เอตัมมังคะละมุตตะมัง อาระตี วิระติ ปาปา มัชชะปานา จะ สังยะโม อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ เอตัมมังคะละมุตตะมัง คาระโว จะ นิวาโต จะ สันตุฏฐิ จะ กะตัญญุตา กาเลนนะ ธัมมัสสะวะนัง เอตัม
สถานที่ปรินิพพาน กุสินารา Mahaparinirvana Temple - Kushinagarเอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม ฯ อะถะโข อัญญะตะรา เทวะตา อะภิกกันตายะ รัตติยา อะภิกกันตะวัณณา เกวะละกัปปัง เชตะวะนัง โอภาเสตวา เยนะ ภะคะวา เตนุปะสังกะมิตวา ภะคะวันตัง อะภิวาเทตวา เอกะมันตัง อัฏฐาสิ ฯ เอกะมันตัง ฐิตา โข สา เทวะตา ภะคะวันตัง คาถายะ อัชฌะภาสิฯ พะหู เทวา มะนุสสา จะ มังคะลานิ อะจินตะยุง อากังขะมานา โสตถานัง พรูหิ มังคะละมุตตะมังฯ อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ วินะโย จะ สุสิกขิโต สุภาสิตา จะ ยา วาจา เอตัมมังคะละมุตตะมัง มาตาปิตุอุปัฏฐานัง ปุตตะ ทารัสสะ สังคะโห อะนากุลา จะ กัมมันตา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ ญาตะกานัญจะ สังคะโห อะนะวัชชานิ กัมมานิ เอตัมมังคะละมุตตะมัง อาระตี วิระติ ปาปา มัชชะปานา จะ สังยะโม อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ เอตัมมังคะละมุตตะมัง คาระโว จะ นิวาโต จะ สันตุฏฐิ จะ กะตัญญุตา กาเลนนะ ธัมมัสสะวะนัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ขันตี จะ โสวะจัสสะตา สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง กาเลนนะ ธัมมะสากัจฉา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ตะโป จะ พรัหมะจะริยัญจะ อะริยะสัจจานะ ทัสสะนัง นิพานะสัจฉิกิริยา จะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ อะโสกัง วิระชัง เขมัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง เอตาทิสานิ กัตะวานะ สัพพัตถะมะปะราชิตา สัพพัตถะ โสตถิง คัจฉันติ ตันเตสัง มังคะละมุตตะมันติ ความหมาย หมายเหตุ - คัดจากพระไตรปิฏก ฉบับมหาสังคายนาสากลนานาชาติ เล่มที่ ๑๘ ขุททกปาฐะ [๕] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล ครั้นปฐมยามล่วงไปเทวดาตนหนึ่งมีรัศมีงามยิ่งนัก ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างไสว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า [๖] เทวดาและมนุษย์เป็นอันมาก ผู้หวังความสวัสดี ได้พากันคิดมงคลทั้งหลาย ขอพระองค์จงตรัสอุดมมงคล พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถาตอบว่า การไม่คบคนพาล ๑ การคบบัณฑิต ๑ การบูชาบุคคลที่ควรบูชา ๑ นี้เป็นอุดมมงคล การอยู่ในประเทศอันสมควร ๑ ความเป็นผู้มีบุญอันกระทำแล้วในกาลก่อน ๑ การตั้งตนไว้ชอบ ๑ นี้เป็นอุดมมงคล พาหุสัจจะ ๑ ศิลป ๑ วินัยที่ศึกษาดีแล้ว ๑ วาจาสุภาสิต ๑ นี้เป็นอุดมมงคล การบำรุงมารดาบิดา ๑ การสงเคราะห์บุตรภรรยา ๑ การงานอันไม่อากูล ๑ นี้เป็นอุดมมงคล ทาน ๑ การประพฤติธรรม ๑ การสงเคราะห์ญาติ ๑ กรรมอันไม่มีโทษ ๑ นี้เป็นอุดมมงคล การงดการเว้นจากบาป ๑ ความสำรวมจากการดื่มน้ำเมา ๑ ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย ๑ นี้เป็นอุดมมงคล ความเคารพ ๑ ความประพฤติถ่อมตน ๑ ความสันโดษ ๑ ความกตัญญู ๑ การฟังธรรมโดยกาล ๑ นี้เป็นอุดมมงคล ความอดทน ๑ ความเป็นผู้ว่าง่าย ๑ การได้เห็นสมณะทั้งหลาย ๑ การสนทนาธรรมโดยกาล ๑ นี้เป็นอุดมมงคล ความเพียร ๑ พรหมจรรย์ ๑ การเห็นอริยสัจ ๑ การกระทำนิพพานให้แจ้ง ๑ นี้เป็นอุดมมงคล จิตของผู้ใดอันโลกธรรมทั้งหลายถูกต้องแล้ว ย่อมไม่หวั่นไหว ๑ ไม่เศร้าโศก ๑ ปราศจากธุลี ๑ เป็นจิตเกษม ๑ นี้เป็นอุดมมงคล เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ทำมงคลเช่นนี้แล้ว เป็นผู้ไม่ปราชัยในข้าศึกทุกหมู่เหล่า ย่อมถึงความสวัสดีในที่ทุกสถาน นี้เป็นอุดมมงคลของเทวดาและมนุษย์เหล่านั้น ฯ
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ไทยรวมกำลัง - คลื่นลูกใหม่สุนทราภรณ์#พระโสดาบันกับพระสกิทาคามีเนี่ยท่านบอกว่ามีสมาธิเล็กน้อยมีปัญญาเล็กน้อยแต่ว่ามีศีลบริสุทธิ์นี่ถ้าหากว่าเราไม่ประมาทในความตายคนที่ไม่ประมาทในความตายไม่มีอะไรดูง่ายๆก็คือรักษาศีลบริสุทธิ์หมั่นให้ทานไว้ หมั่นรักษาศีลไว้หมั่นคำนึงนึกถึงว่าเกิดเป็นทุกข์แก่เป็นทุกข์ตายเป็นทุกข์ การพลัดพรากจากของรักของชอบใจเป็นทุกข์ มีกรรมเป็นของตัว ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว อันนี้ดีตัวนี้ก็คือ “ดีไม่ต้องการเกิด” ถ้าเราไม่เกิด แก่ไม่มี เจ็บไม่มี ป่วยไม่มี ตายไม่มี พลัดพรากจากของรักของชอบใจไม่มี ใช่ไหม ? ไอ้ตัวที่จะไม่เกิดก็คือ #อารมณ์นึกถึงพระนิพพานเป็นอารมณ์ว่าตายคราวนี้ขอไปพระนิพพานอย่างเดียวไม่ไปไหนไม่ว่าเขาจะถามว่าแกจะไปได้ไม่ได้ก็บอกว่าได้ไม่ได้ไม่รู้ก็ข้าจะไปใช่ไหมมึงจะไปหรือไม่ไปก็ช่างมึงแต่กูจะไปก็หมดเรื่องมันเรื่องของกูไม่ใช่เรื่องของมึงใช่ไหมคราวนี้จะไปได้ไหมล่ถ้าจิตเราทรงความเป็นพระโสดาบันได้ ถ้าอารมณ์เรารักพระนิพพานเป็นอารมณ์ #คิดว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไปขึ้นชื่อว่าความเป็นมนุษย์อย่างนี้ไม่มีสำหรับเราอีก การเป็นเทวดาหรือพรหมก็ไม่มีสำหรับเรา เมื่อละจากอัตภาพนี้แล้วเราต้องการจุดเดียวคือ พระนิพพาน แล้วเราก็มานั่งนึกหาความจริงว่าไอ้คนที่เค้าจะตายนี่ เค้าไปนรก ไปสวรรค์ ไปพรหมโลก ไปนิพพานเค้าเอาอะไรไปหึลูก ? เอาตัวไปหรือเปล่า ? ไอ้ที่ไปเนี่ยคือ “ใจ” ใช่ไหม ? ใช่ ตอนนี้ถ้าใจของเราเวลานี้น่ะ เรายึดหัวหาด คืออารมณ์ของพระโสดาบันไว้ได้ ตัดอบายภูมิหมด แล้วอารมณ์อีกจุดหนึ่ง มันตั้งตรงพระนิพพานไง จิตมันตั้งไว้แล้วว่าจะไปนิพพาน นี้ก็รู้แล้วว่าเวลาไปจริง ๆ นั้นจิตมันไป นี้เวลาตายจริง ๆ มันก็ไปนิพพานเลย ไม่ยาก ตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า “มโนปุพพัง คมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่ มีใจเป็นหัวหน้า สำเร็จได้ด้วยใจ” ใช่ไหม ? ในเมื่อใจมันตั้งไว้เพื่อพระนิพพาน ตายแล้วมันจะไปไหน ? ก็ไปพระนิพพาน มีเยอะแยะไปที่เค้าทำกันอย่างนี้นะ ไม่ใช่ว่าการปฏิบัติตัวมันจะต้องเป็นพระอรหันต์วันนี้ จงอย่าลืมว่าอารมณ์ที่ตั้งไว้เพื่อพระนิพพานนี่แหล่ะมันเป็น “อารมณ์พระอรหันต์” นี้อารมณ์ของพระโสดาบันเนี่ยเราก็ “ยันนรก” ไว้ต่างหาก แต่ว่ายามปกติเนี่ยเราคิดไว้เสมอว่า ร่างกายนี้นะมันเป็นทุกข์อย่างนี้เราไม่ต้องการ เมื่อเราไม่ต้องการร่างกายของเรา แล้วร่างกายเราก็ไม่มี ในเมื่อร่างกายเราไม่มีมันมีผัวมีเมียได้ไหม? นี่ตัวตัดจริง ๆ มันอยู่ตรงนี้นะเบา ๆ ไม่ยาก ใช่ไหม ? .. (หลวงพ่อพระราชพรหมยาน)
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
Dalai Lama reaches India's eastern Bodh Gaya city for Buddhist festival
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
สุดท้ายพากเพียรแทบล้มแทบตายก็พบว่าดีก็ชั่วคราวสุขก็ชั่วคราวสงบก็ชั่วคราวจิตผู้รู้ก็ชั่วคราวอะไรๆก็ชั่วคราวหมดเลยไม่เห็นมีตรงไหนเลยที่มันจะถาวรได้จิตยอมรับความจริงตรงนี้ได้ จิตก็หมดแรงดิ้นนะจะดิ้นไปทำไมล่ะ ดิ้นหาดี หาสุข หาสงบ ดิ้นยังไงก็ไม่มีมีก็มีชั่วคราวเดี๋ยวก็หายไปอีก นี่จิตจะหยุดแรงดิ้น หมดแรงดิ้นจิตที่แรงดิ้นเพราะว่าดิ้นมาสุดขีดแล้วนะ สติก็สุดขีดแล้ว สมาธิก็สุดขีดแล้ว ปัญญาก็สุดขีดแล้วสติสุดขีดก็คือ ไม่เจตนาจะรู้ ก็รู้..รู้..รู้ทั้งวันเลย รู้ทั้งคืนด้วยสมาธิก็จิตตั้งมั่นเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน รู้อยู่อย่างนี้ ไม่เป็นผู้หลงนะอย่างมากก็หลงแว๊บๆ ก็กลับมาเป็นผู้รู้อย่างรวดเร็วจะทำสมาธิให้มากกว่านี้ก็ไม่รู้จะทำยังไง จะทำสติให้มากกว่านี้ก็ไม่รู้จะทำยังไง จะเจริญปัญญาให้มากกว่านี้ก็ไม่รู้จะทำยังไงนะ มันจนมุมไปหมดเลยคือ สติก็ทำมาจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว สมาธิก็ทำจนไม่รู้จะทำยังไงปัญญาก็ไม่รู้จะพลิกแพลงไปพิจารณาอะไรอีกต่อไปแล้วเนี่ยจิตถ้าภาวนามาสุดขีดนะมันจะเข้ามาสู่ภาวะแห่งความจนมุมมันจะหยุดแรงดิ้น มันจะหมดความอยากว่าทำยังไงจะพ้นทุกข์ได้ทำยังไงจะสุขถาวร ทำยังไงจะดีถาวร ทำยังไงจะสงบถา
ทุกข์ร้อยแปด - ชาย เมืองสิงห์[Official MV]
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
#ถ้าจิตเราเป็นกลางเราไม่ได้มุ่งพุทธภูมิเราไม่ได้ทำกรรมชั่วหยาบมา #จิตเราจะก้าวกระโดดเกิดอริยมรรคขึ้นมาขั้นแรกมันจะรวมลงก่อนรวมเข้า อัปปนาสมาธิรวมเองโดยที่ไม่ได้เจตนาจะรวมไม่ได้คิดได้ฝันที่จะรวม #รวมโดยอัตโนมัติเมื่อรวมลงมาแล้วจะเห็นสภาวธรรมเกิดดับเกิดดับสองขณะบ้างสามขณะบ้างถัดจากนั้นจิตจะวางการรับรู้อารมณ์ทวนกระแสเข้ามาหาธาตุรู้เมื่อทวนกระแสเข้าถึงธาตุรู้แล้วสิ่งที่ห่อหุ้มปิดบังจิตอยู่คืออาสวกิเลสทั้งหลายสังโยชน์ทั้งหลายถูกขาดสะบั้นออกไปด้วยกำลังของอริยมรรค นิพพานก็จะปรากฏเด่นดวงขึ้นมาให้เรารู้สึกได้สองขณะบ้างสามขณะบ้าง คนไหนซึ่งอินทรีย์ไม่แก่กล้ามาก ตอนที่จิตรวมไปทีแรก เห็นสภาวธรรมก็จะเห็นสามครั้ง แล้วพอเห็นนิพพานพอได้ผลจะเห็นสองขณะ แต่คนที่อินทรีย์แก่กล้าเห็นสภาวะทีแรกจะเห็นสองขณะ และจะมาเห็นนิพพานสามขณะ เห็นยาวต่างกัน อินทรีย์ไม่เท่ากัน ผลที่เกิดขึ้นก็ไม่เท่ากัน ถัดจากนั้นจิตจะถอยออกจาก อัปปนาสมาธิ นะ ถอยเอง ถัดจากนั้นไม่ทรงอยู่แล้วจะถอยออกมา พอถอยออกมาแล้วจะทวนกระแสกลับเข้าไปพิจารณาว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น ก็แจ่มแจ้งแล้วว่า เมื่อกี้นี้ตัวตนอะไรไม่มีอีกแล้ว ไม่มีอะไรที่เป็นตัวเป็นตน
ทางหลุดพ้น
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
#เราภาวนาจนเห็นว่าทุกอย่างชั่วคราวสุขทุกข์ดีชั่วทั้งหลายชั่วคราวทั้งหมด ตรงนี้แหละใจจะเป็นกลางกับทุกสิ่งทุกอย่างตัวนี้แหละคือสิ่งเรียกว่า #สังขารุเบกขาญานจิตมีปัญญานะเป็นกลางกับความปรุงแต่งทั้งหลายสุข ทุกข์ดีชั่วทั้งหลายนี่จิตเป็นกลางหมดเลยเพราะอะไรเพราะปัญญาไม่ใช่กลางเพราะการเพ่งไม่ใช่เป็นกลางเพราะกำหนดนะกำหนดแล้วเป็นกลางนี่ยังไม่ใช่ ตัวนี้ต้องเป็นกลางเพราะปัญญา #ถ้าเราตามรู้จิตใจของเราทุกวันๆเราจะเห็นเลยความสุขอยู่ชั่วคราวแล้วก็หายความทุกข์อยู่ชั่วคราวแล้วก็หายโลภโกรธหลงอยู่ชั่วคราวแล้วก็หายกุศลอยู่ชั่วคราวแล้วก็หายไปถ้าตามดูอย่างนี้นานๆไปนะจิตมันยอมรับความจริงว่าสิ่งใดเกิดขึ้นสิ่งนั้นดับไปความสุขเกิดขึ้นจิตไม่หลงระเริงความทุกข์เกิดขึ้นจิตไม่กลุ้มใจจิตมันจะเป็นกลางต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่มันไปรู้เข้าจิตที่มันเป็นกลางต่อทุกสิ่งทุกอย่างคือประตูแห่งการบรรลุมรรคผล พอมันเป็นกลางกับทุกสิ่งทุกอย่าง มันจะไม่ปรุงแต่งต่อ อย่างถ้ามันไม่เป็นกลาง มันจะปรุงแต่งต่อ เช่น ความโกรธเกิดขึ้น อยากให้หาย ก็ต้องหาทางทำให้หาย เห็นมั้ยปรุงแต่งต่อล่ะ ความสุขเกิดขึ้นอยากให้อยู่นานๆ ต้องหาทางรักษา นี่ปรุงแต่ง
ทางหลุดพ้นจากความทุกข์อย่างสิ้นเชิง
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
#ธรรม๕ประการนี้อันบุคคลเจริญแล้วทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับสนิท เพื่อเข้าไปสงบเพื่อรู้ยิ่งเพื่อตรัสรู้ และเพื่อนิพพานโดยส่วนเดียวธรรม๕ประการเป็นไฉนคือภิกษุในธรรมวินัยนี้ #ย่อมพิจารณาเห็นว่าไม่งามในกาย๑มีความสำคัญว่าเป็นของปฏิกูลในอาหาร๑มีความสำคัญว่าไม่น่ายินดีในโลกทั้งปวง๑พิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยงในสังขารทั้งปวง๑ย่อมเข้าไปตั้งมรณสัญญาไว้ในภายใน๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการนี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับสนิท เพื่อเข้าไปสงบ เพื่อรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพาน ฯ -------------------- นิพพิทาสูตร เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ บรรทัดที่ ๑๙๓๒ - ๑๙๔๒. หน้าที่ ๘๔. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2... ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/a... เราอย่าไปวาดภาพให้มันยุ่งยาก ธรรมะไม่ใช่ของลึกลับ พวกเราชอบคิดว่าธรรมะคืออะไรก็ไม่รู้ ลึกลับ รู้แต่ว่ามันเป็นของดี เราคิดแต่ว่ามันอยู่ไกลๆ เราต้องทำอีกนานๆถึงจะเจอ เราชอบคิดว่าธรรมะอยู่ที่วัด ธรรมะอยู่ที่พร
ทางดับตัณหา#ธรรม๕ประการนี้อันบุคคลเจริญแล้วทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับสนิท เพื่อเข้าไปสงบเพื่อรู้ยิ่งเพื่อตรัสรู้ และเพื่อนิพพานโดยส่วนเดียวธรรม๕ประการเป็นไฉนคือภิกษุในธรรมวินัยนี้ #ย่อมพิจารณาเห็นว่าไม่งามในกาย๑มีความสำคัญว่าเป็นของปฏิกูลในอาหาร๑มีความสำคัญว่าไม่น่ายินดีในโลกทั้งปวง๑พิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยงในสังขารทั้งปวง๑ย่อมเข้าไปตั้งมรณสัญญาไว้ในภายใน๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการนี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับสนิท เพื่อเข้าไปสงบ เพื่อรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพาน ฯ -------------------- นิพพิทาสูตร เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ บรรทัดที่ ๑๙๓๒ - ๑๙๔๒. หน้าที่ ๘๔. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2... ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/a... เราอย่าไปวาดภาพให้มันยุ่งยาก ธรรมะไม่ใช่ของลึกลับ พวกเราชอบคิดว่าธรรมะคืออะไรก็ไม่รู้ ลึกลับ รู้แต่ว่ามันเป็นของดี เราคิดแต่ว่ามันอยู่ไกลๆ เราต้องทำอีกนานๆถึงจะเจอ เราชอบคิดว่าธรรมะอยู่ที่วัด ธรรมะอยู่ที่พระ หรือธรรมะอยู่ที่การเข้าคอร์ส แท้จริงธรรมะไม่ได้พิกลพิการยากไร้ขนาดนั้นหรอก ธรรมะอยู่กับตัวเรามาตั้งแต่เกิด ถ้าพวกเราอยากได้ธรรมะเนี่ย ให้ย้อนมาเรียนที่ตัวธรรมะจริงๆ อะไรเป็นตัวธรรมะตัวจริง กายนี้แหละเป็นธรรมะเรียกว่ารูปธรรม ชื่อมันบอกอยู่แล้วว่ามันเป็นธรรมะ เรียกว่ารูปธรรม ใจของเรานี้แหละเป็นธรรมะ เรียกว่านามธรรม อย่าไปแสวงหาธรรมะที่อื่น หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอนะ จะมาฟังอาตมาพูดกี่วันก็ไม่รู้เรื่องหรอก ธรรมะ(แท้ๆ – ผู้ถอด)เรียนไม่ได้ด้วยการฟัง เรียนไม่ได้ด้วยการอ่าน เรียนไม่ได้ด้วยการคิดๆเอา ทางเดียวที่จะเรียนธรรมะได้นี่นะ คือต้องเรียนจากครูของเราจริงๆ ครูที่จะสอนธรรมะเราได้มีสองคนเท่านั้น คือ รูปกับนามหรือกายกับใจของเรานี่เอง เพราะฉะนั้นหน้าที่ของเราคือ ให้คอยรู้ลงที่กายคอยรู้ลงที่ใจเนืองๆ กายและใจจะสอนธรรมะของจริงให้เราดู คนส่วนใหญ่เที่ยวหาธรรมะภายนอก ก็มีแต่หลงออกไปภายนอก ละเลยที่จะเรียนรู้เรื่องของตัวเอง เพราะฉะนั้นถ้าจะถามว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร พระพุทธเจ้าสอนให้น้อมเข้ามา โอปนยิโก น้อมกลับเข้ามา มาเรียนเรื่องของตัวเราเอง เรียนจนรู้ความจริงว่าความทุกข์มันเกิดได้อย่างไร ทำอย่างไรถึงจะไม่ทุกข์ เพราะฉะนั้นธรรมะในตำราอภิธรรมจะสอน บอกว่าต้องรู้รูปนามต้องรู้กายรู้ใจนะ
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
การเกิดอริยมรรค#ทางมรรคผลนิพพาน#การเกิดอริยมรรค#ทางพ้นทุกข์ วิมุตติ คือ ความหลุดพ้นจากกิเลสหรือหลุดพ้นจากวัฏฏสงสาร หรือรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุมรรคผลนิพพาน นักปฏิบัติธรรมที่ประสบความสำเร็จจะต้องบรรลุวิมุติและวิมุตติญาณทัสสนะขั้นสูงสุด จึงจะจบการศึกษาเป็นอเสกขะบุคคล วิมุตติมี 3 อย่างคือ 1. เจโตวิมุตติ คือหลุดพ้นด้วยอำนาจแห่งสมาธิเป็นหลัก นักปฏิบัติผู้มีนิสัยวาสนาทางเจโตวิมุตติ จะบรรลุธรรมได้ด้วยตนเองอย่างวิเศษอัศจรรย์ แม้ผู้นั้นจะไม่ได้ศึกษาทางปริยัติมาเลย เมื่อฝึกอบรมจิตให้ตั้งมั่นเป็นสมาธิได้แล้ว จะสามารถรู้ธรรมเห็นธรรมเข้าใจธรรมในขณะจิตเป็นสมาธิอยู่นั้นอย่างแจ่มแจ้งโดยไม่ต้องถามใคร สติปัญญาศรัทธาความเพียรจะแก่กล้าขึ้นเป็นลำดับ บางครั้งก็เกิดความรู้พิเศษอัศจรรย์ซึ่งเป็นฌานโลกีย์เกิดขึ้น เช่นหูทิพย์ ตาทิพย์ มีฤทธิ์ทางใจอื่นๆ เกิดขึ้นเป็นที่ฮือฮามาก ผู้มีนิสัยทางเจโตวิมุตติ จิตจะรวมเป็นสมาธิเร็วและมีนิมิตมาก กิเลสต่างๆ และธรรมเครื่องแก้กิเลสจะรู้ได้เห็นได้จากการพิจารณานิมิต อยากเห็นอะไรอยากรู้อะไรก็กำหนดดูในสมาธิ จนรู้ชัดเห็นชัดเข้าใจชัดโดยไม่ต้องถามใคร เมื่อความรู้รอบคอบครบวงจรอริยสัจสี่ ก็สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานได้ ข้อควรระวังของผู้มีนิสัยวาสนาทางเจโตวิมุตติ คือการหลงความรู้(ฌาน) โดยเฉพาะความรู้ที่เกิดจากฌานโลกีย์ข้อต้นๆ มันอัศจรรย์น่าติดใจหลงใหลมาก ถ้าไม่มีครูบาอาจารย์ที่รู้จริงเห็นจริงคอยควบคุมดูแล อาจเกิดวิปลาสได้ หรืออาจหลงใช้ฌานโลกีย์ไปในทางผิดศีลผิดธรรม ทำให้ฌานเสื่อมก่อนฌานที่โลกุตรธรรม คืออาสะวักขยะญาณจะเกิดขึ้นมีขึ้น นักบวชนักปฏิบัติที่เสียคนไปเพราะหลงญาณโลกีย์มีจำนวนมาก ต้องระวังให้ดี 2. ปัญญาวิมุตติ คือหลุดพ้นด้วยอำนาจแห่งปัญญา ผู้มีนิสัยวาสนาทางปัญญาวิมุตติตอนเริ่มฝึกสมาธิจิตมักฟุ้งซ่าน ไม่รวมลงง่ายๆ เมื่อรวมเป็นสมาธิแล้วก็ไม่ค่อยมีนิมิตเกิดขึ้น บางคนไม่เห็นนิมิตอะไรเลย ได้ยินสายเจโตพูดกันว่าเกิดนิมิตบอกว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ก็อยากจะเห็นกับเขาบ้าง ซึ่งยิ่งอยากก็ยิ่งไม่เห็นไม่เป็น ทำให้ลังเลสงสัยว่าตนเองไม่มีวาสนาพอที่จะรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุธรรม เลิกการปฏิบัติธรรมไปเสียก็มี นักปฏิบัติสายปัญญาวิมุตติอาศัยสมาธิเพียงเล็กน้อยก็พิจารณาทางปัญญาได้ ไม่จำเป็นต้องให้จิตรวมลึกเป็นอุปจารสมาธิ ก็สามารถรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุธรรมได้ กรรมฐานที่เหมาะกับคนนิสัยนี้คือ กรรมฐานตามรู้และวิปัสสนากรรมฐานเมื่อทำจิตให้สงบจดจ่ออยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเพียงเรื่องเดียวได้แล้ว ให้พิจารณาสิ่งต่างๆ ให้เห็นนามรูป เห็นไตรลักษณ์ เห็นโทษภัย เห็นความเสื่อมสลายของสังขารทั้งหลาย จนเกิดนิพพิทาญาณ แล้วพิจารณาสังขารทั้งหลายที่มีอยู่ให้เห็นส่วนละเอียด โยงเข้าสู่อริยสัจสี่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค วิมุตติ วิมุตติญาณทัสนะ โดยอาศัยความจำที่มีอยู่เห็นอยู่ตามปกติในชีวิตประจำวันเป็นฐานในการพิจารณา พิจารณากลับไปกลับมาหลายๆ ครั้ง ความรู้จะละเอียดขึ้นเรื่อยๆ จนรู้แจ้งแทงตลอดในเรื่องนั้นโดยเหตุโดยผลตามความเป็นจริง รู้จักเหตุปัจจัยของสิ่งต่างๆ แจ้งชัดและสุดท้ายจะรู้จักวิธีทำกิเลสให้สิ้นได้เช่นเดียวกัน แต่ไม่ค่อยเป็นที่อือฮาเหมือนสายเจโตวิมุตติ 3. อุภภะโตภาควิมุตติ คือผู้หลุดพ้นได้ทั้งสองแบบ เจโตวิมุตติก็ได้ ปัญญาวิมุตติก็ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นนิสัยวาสนาของผู้เคยบำเพ็ญพุทธภูมิมาก่อน ชำนาญในการฝึกจิตมาแล้วทั้งสองแบบ เมื่ออธิษฐานกกลับ คือเปลี่ยนใจสละพุทธภูมิ มาปรารถนาความหลุดพ้นแบบสาวกภูมิ ก็สามารถรู้ธรรมเห็นธรรมเข้าใจธรรมได้ง่ายไม่ว่าจะดำเนินตามแนวไหน เจโตวิมุตติหรือปัญญาวิมุตติ มักจะเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์และปฏิสัมภิทา มักจะเป็นผู้มีจิตใจกว้างขวางไม่ตำหนิผู้ใด เป็นครูเป็นอาจารย์แนะนำแนวทางปฏิบัติธรรมให้แก่ลูกศิษย์ได้หลายจริตนิสัย ใครได้พบได้เห็นครูอาจารย์ผู้มีอุปนิสัยวาสนาสายอุภภะโตภาควิมุตติ มักจะประสบความสำเร็จในการปฏิบัติธรรมคือ สามารถรู้ธรรมเห็นธรรมเข้าใจธรรมบรรลุมรรคผลนิพพานตามที่ปรารถนา ใครได้พบครูอาจารย์สายนี้จึงเป็นโชคดีของคนนั้น พระอริยบุคคลผู้รู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุมรรคผลในระดับที่เท่ากันไม่ว่าดำเนินการปฏิบัติมาสายไหน ความบริสุทธิ์แห่งจิตมีเท่ากัน คือละกิเลส พ้นทุกข์ได้เท่ากัน แต่ความคล่องแคล่วชำนิชำนาญ ความละเอียดรอบคอบอาจจะแตกต่างกัน ความเห็นบางอย่างอาจไม่เหมือนกันเสียทีเดียวบางทีสายเจโตกับสายปัญญาอาจมีความเห็นไม่ลงรอยกัน สงสัยการปฏิบัติของกันและกัน ท่านให้ผู้ปฏิบัติธรรมระมัดระวัง อย่าให้อติมานะ การดูหมิ่นและประมาทผู้อื่นเกิดขึ้น จะเป็นสักคาวร มรรคาวร คือเป็นบาปกรรมห้ามสวรรค์ ห้ามมรรคผลของตนเอง ท่านว่า “ผู้มีศีลจะรู้ได้ เมื่อได้อยู่ร่วมกัน ผู้มีปัญญาจะรู้ได้เมื่อได้สนทนากัน” ต้องระลึกไว้เสมอว่า “การรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุมรรคผลเป็นปัจจัตตัง” คือรู้ได้เฉพาะตนของใครของมัน อิทธิฤทธิ์ โวหาร ปฏิภาณ ปฏิสัมภิทา ลาภสักการะ เป็นบารมีแต่ละคนที่สะสมมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ แข่งขันกันไม่ได้
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
มรรคจิต ผลจิต#ทางมรรคผลนิพพาน#การเกิดอริยมรรค#ทางพ้นทุกข์ วิมุตติ คือ ความหลุดพ้นจากกิเลสหรือหลุดพ้นจากวัฏฏสงสาร หรือรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุมรรคผลนิพพาน นักปฏิบัติธรรมที่ประสบความสำเร็จจะต้องบรรลุวิมุติและวิมุตติญาณทัสสนะขั้นสูงสุด จึงจะจบการศึกษาเป็นอเสกขะบุคคล วิมุตติมี 3 อย่างคือ 1. เจโตวิมุตติ คือหลุดพ้นด้วยอำนาจแห่งสมาธิเป็นหลัก นักปฏิบัติผู้มีนิสัยวาสนาทางเจโตวิมุตติ จะบรรลุธรรมได้ด้วยตนเองอย่างวิเศษอัศจรรย์ แม้ผู้นั้นจะไม่ได้ศึกษาทางปริยัติมาเลย เมื่อฝึกอบรมจิตให้ตั้งมั่นเป็นสมาธิได้แล้ว จะสามารถรู้ธรรมเห็นธรรมเข้าใจธรรมในขณะจิตเป็นสมาธิอยู่นั้นอย่างแจ่มแจ้งโดยไม่ต้องถามใคร สติปัญญาศรัทธาความเพียรจะแก่กล้าขึ้นเป็นลำดับ บางครั้งก็เกิดความรู้พิเศษอัศจรรย์ซึ่งเป็นฌานโลกีย์เกิดขึ้น เช่นหูทิพย์ ตาทิพย์ มีฤทธิ์ทางใจอื่นๆ เกิดขึ้นเป็นที่ฮือฮามาก ผู้มีนิสัยทางเจโตวิมุตติ จิตจะรวมเป็นสมาธิเร็วและมีนิมิตมาก กิเลสต่างๆ และธรรมเครื่องแก้กิเลสจะรู้ได้เห็นได้จากการพิจารณานิมิต อยากเห็นอะไรอยากรู้อะไรก็กำหนดดูในสมาธิ จนรู้ชัดเห็นชัดเข้าใจชัดโดยไม่ต้องถามใคร เมื่อความรู้รอบคอบครบวงจรอริยสัจสี่ ก็สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานได้ ข้อควรระวังของผู้มีนิสัยวาสนาทางเจโตวิมุตติ คือการหลงความรู้(ฌาน) โดยเฉพาะความรู้ที่เกิดจากฌานโลกีย์ข้อต้นๆ มันอัศจรรย์น่าติดใจหลงใหลมาก ถ้าไม่มีครูบาอาจารย์ที่รู้จริงเห็นจริงคอยควบคุมดูแล อาจเกิดวิปลาสได้ หรืออาจหลงใช้ฌานโลกีย์ไปในทางผิดศีลผิดธรรม ทำให้ฌานเสื่อมก่อนฌานที่โลกุตรธรรม คืออาสะวักขยะญาณจะเกิดขึ้นมีขึ้น นักบวชนักปฏิบัติที่เสียคนไปเพราะหลงญาณโลกีย์มีจำนวนมาก ต้องระวังให้ดี 2. ปัญญาวิมุตติ คือหลุดพ้นด้วยอำนาจแห่งปัญญา ผู้มีนิสัยวาสนาทางปัญญาวิมุตติตอนเริ่มฝึกสมาธิจิตมักฟุ้งซ่าน ไม่รวมลงง่ายๆ เมื่อรวมเป็นสมาธิแล้วก็ไม่ค่อยมีนิมิตเกิดขึ้น บางคนไม่เห็นนิมิตอะไรเลย ได้ยินสายเจโตพูดกันว่าเกิดนิมิตบอกว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ก็อยากจะเห็นกับเขาบ้าง ซึ่งยิ่งอยากก็ยิ่งไม่เห็นไม่เป็น ทำให้ลังเลสงสัยว่าตนเองไม่มีวาสนาพอที่จะรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุธรรม เลิกการปฏิบัติธรรมไปเสียก็มี นักปฏิบัติสายปัญญาวิมุตติอาศัยสมาธิเพียงเล็กน้อยก็พิจารณาทางปัญญาได้ ไม่จำเป็นต้องให้จิตรวมลึกเป็นอุปจารสมาธิ ก็สามารถรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุธรรมได้ กรรมฐานที่เหมาะกับคนนิสัยนี้คือ กรรมฐานตามรู้และวิปัสสนากรรมฐานเมื่อทำจิตให้สงบจดจ่ออยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเพียงเรื่องเดียวได้แล้ว ให้พิจารณาสิ่งต่างๆ ให้เห็นนามรูป เห็นไตรลักษณ์ เห็นโทษภัย เห็นความเสื่อมสลายของสังขารทั้งหลาย จนเกิดนิพพิทาญาณ แล้วพิจารณาสังขารทั้งหลายที่มีอยู่ให้เห็นส่วนละเอียด โยงเข้าสู่อริยสัจสี่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค วิมุตติ วิมุตติญาณทัสนะ โดยอาศัยความจำที่มีอยู่เห็นอยู่ตามปกติในชีวิตประจำวันเป็นฐานในการพิจารณา พิจารณากลับไปกลับมาหลายๆ ครั้ง ความรู้จะละเอียดขึ้นเรื่อยๆ จนรู้แจ้งแทงตลอดในเรื่องนั้นโดยเหตุโดยผลตามความเป็นจริง รู้จักเหตุปัจจัยของสิ่งต่างๆ แจ้งชัดและสุดท้ายจะรู้จักวิธีทำกิเลสให้สิ้นได้เช่นเดียวกัน แต่ไม่ค่อยเป็นที่อือฮาเหมือนสายเจโตวิมุตติ 3. อุภภะโตภาควิมุตติ คือผู้หลุดพ้นได้ทั้งสองแบบ เจโตวิมุตติก็ได้ ปัญญาวิมุตติก็ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นนิสัยวาสนาของผู้เคยบำเพ็ญพุทธภูมิมาก่อน ชำนาญในการฝึกจิตมาแล้วทั้งสองแบบ เมื่ออธิษฐานกกลับ คือเปลี่ยนใจสละพุทธภูมิ มาปรารถนาความหลุดพ้นแบบสาวกภูมิ ก็สามารถรู้ธรรมเห็นธรรมเข้าใจธรรมได้ง่ายไม่ว่าจะดำเนินตามแนวไหน เจโตวิมุตติหรือปัญญาวิมุตติ มักจะเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์และปฏิสัมภิทา มักจะเป็นผู้มีจิตใจกว้างขวางไม่ตำหนิผู้ใด เป็นครูเป็นอาจารย์แนะนำแนวทางปฏิบัติธรรมให้แก่ลูกศิษย์ได้หลายจริตนิสัย ใครได้พบได้เห็นครูอาจารย์ผู้มีอุปนิสัยวาสนาสายอุภภะโตภาควิมุตติ มักจะประสบความสำเร็จในการปฏิบัติธรรมคือ สามารถรู้ธรรมเห็นธรรมเข้าใจธรรมบรรลุมรรคผลนิพพานตามที่ปรารถนา ใครได้พบครูอาจารย์สายนี้จึงเป็นโชคดีของคนนั้น พระอริยบุคคลผู้รู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุมรรคผลในระดับที่เท่ากันไม่ว่าดำเนินการปฏิบัติมาสายไหน ความบริสุทธิ์แห่งจิตมีเท่ากัน คือละกิเลส พ้นทุกข์ได้เท่ากัน แต่ความคล่องแคล่วชำนิชำนาญ ความละเอียดรอบคอบอาจจะแตกต่างกัน ความเห็นบางอย่างอาจไม่เหมือนกันเสียทีเดียวบางทีสายเจโตกับสายปัญญาอาจมีความเห็นไม่ลงรอยกัน สงสัยการปฏิบัติของกันและกัน ท่านให้ผู้ปฏิบัติธรรมระมัดระวัง อย่าให้อติมานะ การดูหมิ่นและประมาทผู้อื่นเกิดขึ้น จะเป็นสักคาวร มรรคาวร คือเป็นบาปกรรมห้ามสวรรค์ ห้ามมรรคผลของตนเอง ท่านว่า “ผู้มีศีลจะรู้ได้ เมื่อได้อยู่ร่วมกัน ผู้มีปัญญาจะรู้ได้เมื่อได้สนทนากัน” ต้องระลึกไว้เสมอว่า “การรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุมรรคผลเป็นปัจจัตตัง” คือรู้ได้เฉพาะตนของใครของมัน อิทธิฤทธิ์ โวหาร ปฏิภาณ ปฏิสัมภิทา ลาภสักการะ เป็นบารมีแต่ละคนที่สะสมมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ แข่งขันกันไม่ได้
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
มรรคผลนิพพาน
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ทางหลุดพ้นจากทุกข์ในชีวิตของสัตว์โลกมี 5 ทาง (พระสาวกทั้งหลายที่ได้บรรลุธรรมในสมัยพุทธกาลนั้นมี 5 สาเหตุนี้) 1. ได้ฟังธรรมะจากพระศาสดาหรือจากภิกษุก็ตาม ได้รู้เข้าใจชัดในธรรม เกิด ปีติ เกิดความสุข เกิดความตั้งมั่น เกิดปัญญาหลุดพ้นจากอาสาวะกิเลสทั้งปวง 2. ได้ฟังธรรมแล้วยังไม่หลุด แต่เมื่อจดจำธรรมะได้แล้วไป แสดงธรรมะให้ผู้อื่นฟัง เราผู้แสดงธรรมะก็รู้แจ้งชัดเจนในธรรมะจนเกิดปีติเกิดความสุขเกิดความตั้งมั่นแห่งจิต เกิดปัญญาหลุดพ้นจากอาสาวะกิเลสทั้งปวง 3.หากแสดงธรรมให้ผู้อื่นฟังแล้วตัวเองก็ไม่บรรลุ ให้นำธรรมะที่จดจำนั้นมาใคร่ครวญพิจารณาในใจ จนเข้าใจแจ่มแจ้ง เกิดปีติ เกิดความสุข เกิดจิตตั้งมั่น เกิดปัญญาหลุดพ้นจากอาสาวะทั้งปวง 4.หากใคร่ครวญธรรมะในใจแล้วยังไม่หลุดพ้น บางท่านนำธรรมะที่จำมาแล้ว มาสวดสาธยายออกเสียง แล้วรู้ชัดเจนแจ่มแจ้งในธรรมจนเกิดปีติเกิดความสุข เกิดจิตตั้งมั่น เกิดปัญญาแล้วหลุดพ้นจากอาสาวะทั้งปวง 5.หากทำทั้ง 4ข้อแรกแล้วยังไม่หลุดพ้น แสดงว่าจิตใจอ่อนแอมาก จิตขาดกำลังสติ สมาธิ ท่านให้ทำสมาธิเพื่อรวบรวมความสงบให้เกิดขึ้นกับใจ เมื่อจิตมีกำลังสมาธิขึ้นแล้วจึ
มรรคผลนิพพาน
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ทางหลุดพ้นจากทุกข์ในชีวิตของสัตว์โลกมี 5 ทาง (พระสาวกทั้งหลายที่ได้บรรลุธรรมในสมัยพุทธกาลนั้นมี 5 สาเหตุนี้) 1. ได้ฟังธรรมะจากพระศาสดาหรือจากภิกษุก็ตาม ได้รู้เข้าใจชัดในธรรม เกิด ปีติ เกิดความสุข เกิดความตั้งมั่น เกิดปัญญาหลุดพ้นจากอาสาวะกิเลสทั้งปวง 2. ได้ฟังธรรมแล้วยังไม่หลุด แต่เมื่อจดจำธรรมะได้แล้วไป แสดงธรรมะให้ผู้อื่นฟัง เราผู้แสดงธรรมะก็รู้แจ้งชัดเจนในธรรมะจนเกิดปีติเกิดความสุขเกิดความตั้งมั่นแห่งจิต เกิดปัญญาหลุดพ้นจากอาสาวะกิเลสทั้งปวง 3.หากแสดงธรรมให้ผู้อื่นฟังแล้วตัวเองก็ไม่บรรลุ ให้นำธรรมะที่จดจำนั้นมาใคร่ครวญพิจารณาในใจ จนเข้าใจแจ่มแจ้ง เกิดปีติ เกิดความสุข เกิดจิตตั้งมั่น เกิดปัญญาหลุดพ้นจากอาสาวะทั้งปวง 4.หากใคร่ครวญธรรมะในใจแล้วยังไม่หลุดพ้น บางท่านนำธรรมะที่จำมาแล้ว มาสวดสาธยายออกเสียง แล้วรู้ชัดเจนแจ่มแจ้งในธรรมจนเกิดปีติเกิดความสุข เกิดจิตตั้งมั่น เกิดปัญญาแล้วหลุดพ้นจากอาสาวะทั้งปวง 5.หากทำทั้ง 4ข้อแรกแล้วยังไม่หลุดพ้น แสดงว่าจิตใจอ่อนแอมาก จิตขาดกำลังสติ สมาธิ ท่านให้ทำสมาธิเพื่อรวบรวมความสงบให้เกิดขึ้นกับใจ เมื่อจิตมีกำลังสมาธิขึ้นแล้วจึ
มรรคผลนิพพาน
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ทางหลุดพ้นจากทุกข์ในชีวิตของสัตว์โลกมี 5 ทาง (พระสาวกทั้งหลายที่ได้บรรลุธรรมในสมัยพุทธกาลนั้นมี 5 สาเหตุนี้) 1. ได้ฟังธรรมะจากพระศาสดาหรือจากภิกษุก็ตาม ได้รู้เข้าใจชัดในธรรม เกิด ปีติ เกิดความสุข เกิดความตั้งมั่น เกิดปัญญาหลุดพ้นจากอาสาวะกิเลสทั้งปวง 2. ได้ฟังธรรมแล้วยังไม่หลุด แต่เมื่อจดจำธรรมะได้แล้วไป แสดงธรรมะให้ผู้อื่นฟัง เราผู้แสดงธรรมะก็รู้แจ้งชัดเจนในธรรมะจนเกิดปีติเกิดความสุขเกิดความตั้งมั่นแห่งจิต เกิดปัญญาหลุดพ้นจากอาสาวะกิเลสทั้งปวง 3.หากแสดงธรรมให้ผู้อื่นฟังแล้วตัวเองก็ไม่บรรลุ ให้นำธรรมะที่จดจำนั้นมาใคร่ครวญพิจารณาในใจ จนเข้าใจแจ่มแจ้ง เกิดปีติ เกิดความสุข เกิดจิตตั้งมั่น เกิดปัญญาหลุดพ้นจากอาสาวะทั้งปวง 4.หากใคร่ครวญธรรมะในใจแล้วยังไม่หลุดพ้น บางท่านนำธรรมะที่จำมาแล้ว มาสวดสาธยายออกเสียง แล้วรู้ชัดเจนแจ่มแจ้งในธรรมจนเกิดปีติเกิดความสุข เกิดจิตตั้งมั่น เกิดปัญญาแล้วหลุดพ้นจากอาสาวะทั้งปวง 5.หากทำทั้ง 4ข้อแรกแล้วยังไม่หลุดพ้น แสดงว่าจิตใจอ่อนแอมาก จิตขาดกำลังสติ สมาธิ ท่านให้ทำสมาธิเพื่อรวบรวมความสงบให้เกิดขึ้นกับใจ เมื่อจิตมีกำลังสมาธิขึ้นแล้วจึ
เตาแม่เหล็ก MISAWA พร้อม หม้อแขก (103395 Full )SMART HOME Induction Cooker เซตเตาแม่เหล็กไฟฟ้า แถมฟรี เครื่องปั่น ... https://www.youtube.com/watch?v=dUDR_a-O-SU วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 24:01 28 พ.ย. 2560 - อัปโหลดโดย HIGH SHOPPING สนใจและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ HIGH SHOPPING Call Center โทร.02-1234-555 บริการตลอด 24 ชม. สั่งซื้อสินค้าทางเว็บไซด์ที่ ... 6 เตาแม่เหล็กไฟฟ้า / Induction Cooker - YouTube https://www.youtube.com/watch?v=lGwawIClDF4 วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 2:41 7 พ.ค. 2557 - อัปโหลดโดย Rena Ware Thailand KitchenAid Appliance Repair and Maintenance Self Help Videos 159,237 views · 5:52. Play next; Play now ... เตาแม่เหล็ก MISAWA พร้อม หม้อแขก (103395 Full ) - YouTube https://www.youtube.com/watch?v=3PbDSoUSgiI วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 29:31 14 มิ.ย. 2560 - อัปโหลดโดย TVDmomo Thailand เตาแม่เหล็ก MISAWAมีกำลังไฟ 1300วัตต์ มาพร้อมกับหมวดการทำอาหารที่เลือกใช้งานได้หลากหลาย เช่น ต้ม ตุ๋น สุกี้ ผัดไฟแรง ... [SERRANO] Induction cooker เซตเตาแม่เหล็กไฟฟ้า แถมฟรี หม้อสุกี้ เครื่อง ... www.highshopping.com/display/goods/30004249 วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 24:01 4 มิ.ย. 2561 - อัปโหลดโดย HIGH SHOPPING [SERRANO] Induction cooker เซตเตาแม่เหล็กไฟฟ้า แถมฟรี หม้อสุกี้ เครื่องปั่น หม้อแขก 3 ใบ โถสแตนเลส 5 ใบ กระบวย ที่คีบ ส่งฟรีทั่วประเทศ. ... กำลังไฟฟ้า : 1300 วัตต์. Review สินค้าประมูลของจากเว็บ Chilindo ชุดเตาแม่เหล็กไฟฟ้าพร้อมหม้อต้ม ... https://www.youtube.com/watch?v=s35ZHPhyUxU วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 10:15 4 ส.ค. 2560 - อัปโหลดโดย Ekk Pimonsri CASIKO ชุดเตาแม่เหล็กไฟฟ้าพร้อมหม้อต้ม สินค้าประมูลของจากเว็บ Chilindo เมื่อวันที่ 1 สค 2560 ได้ของวันที่ 3 สค 2560 ครับ รายเอียดดังนี้ครับ CASIKO ... เตาแม่เหล็กไฟฟ้า Induction Cooker www.somkiet.com/Miscellaneous/InductionCooker.htm วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 2:06 1 พ.ย. 2554 - อัปโหลดโดย GE Appliances เตาแม่เหล็กไฟฟ้า Induction Cooker for energy saving cooking. Misawa เตาแม่เหล็กไฟฟ้า - YouTube https://www.youtube.com/watch?v=Q34E52sFmdM วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 23:01 25 ก.ค. 2560 - อัปโหลดโดย TrueShopping สนุกกับการสังสรรค์เมนู แบบสะดวก ปลอดภัย ร้อนไว ไม่ต้องใช้แก๊ส หน้าเตาเซรามิก ป้องกันลื่น ทำความสะอาดง่าย รหัสสินค้า 106382 【 พิเศษเพียง 1090 บาท 】 ... แกะกล่อง รีวิว เตาแม่เหล็กไฟฟ้า Imarflex รุ่น If-408 - YouTube https://www.youtube.com/watch?v=b8BhY9u2Hmg วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 11:44 15 ก.พ. 2561 - อัปโหลดโดย RF Channel เพิ่งได้มาจาก ลาซาด้า ในราคา 1290 บาท เห็นเขาว่ามันลดราคา กะเอามาต้มสุกี้ที่บ้าน อันเก่ามันเสียแล้ว (ขี้เกียจหาช่างซ่อม) ตรวจสอบราคาล่าสุด ... 17 เตาแม่เหล็กไฟฟ้า / Use and Care Induction Cooker - YouTube https://www.youtube.com/watch?v=n8b3u0WT8ME วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 8:24 7 พ.ค. 2557 - อัปโหลดโดย Rena Ware Thailand 17 เตาแม่เหล็กไฟฟ้า / Use and Care Induction Cooker. Rena Ware Thailand. Loading... Unsubscribe from Rena Ware Thailand? Cancel [Serrano]Kitchen Mix Set เซตเตา induction หม้อสุกี้ หม้อแขก 3 หม้อหุงข้าว ... www.highshopping.com/display/goods/30004719 วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 24:01 17 ต.ค. 2561 - อัปโหลดโดย HIGH SHOPPING [Serrano]Kitchen Mix Set เซตเตา induction หม้อสุกี้ หม้อแขก 3 หม้อหุงข้าว 1 ลิตร และตะหลิว 2 ... Serrano เตาแม่เหล็กไฟฟ้า. 2. ... กำลังไฟสูงสุด 1300 วัตต์ ประหยัดไฟ. 2. ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับผลการค้นหา เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
SMART HOME Induction Cooker เซตเตาแม่เหล็กไฟฟ้า แถมฟรี เครื่องปั่นSMART HOME Induction Cooker เซตเตาแม่เหล็กไฟฟ้า แถมฟรี เครื่องปั่น ... https://www.youtube.com/watch?v=dUDR_a-O-SU วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 24:01 28 พ.ย. 2560 - อัปโหลดโดย HIGH SHOPPING สนใจและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ HIGH SHOPPING Call Center โทร.02-1234-555 บริการตลอด 24 ชม. สั่งซื้อสินค้าทางเว็บไซด์ที่ ... 6 เตาแม่เหล็กไฟฟ้า / Induction Cooker - YouTube https://www.youtube.com/watch?v=lGwawIClDF4 วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 2:41 7 พ.ค. 2557 - อัปโหลดโดย Rena Ware Thailand KitchenAid Appliance Repair and Maintenance Self Help Videos 159,237 views · 5:52. Play next; Play now ... เตาแม่เหล็ก MISAWA พร้อม หม้อแขก (103395 Full ) - YouTube https://www.youtube.com/watch?v=3PbDSoUSgiI วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 29:31 14 มิ.ย. 2560 - อัปโหลดโดย TVDmomo Thailand เตาแม่เหล็ก MISAWAมีกำลังไฟ 1300วัตต์ มาพร้อมกับหมวดการทำอาหารที่เลือกใช้งานได้หลากหลาย เช่น ต้ม ตุ๋น สุกี้ ผัดไฟแรง ... [SERRANO] Induction cooker เซตเตาแม่เหล็กไฟฟ้า แถมฟรี หม้อสุกี้ เครื่อง ... www.highshopping.com/display/goods/30004249 วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 24:01 4 มิ.ย. 2561 - อัปโหลดโดย HIGH SHOPPING [SERRANO] Induction cooker เซตเตาแม่เหล็กไฟฟ้า แถมฟรี หม้อสุกี้ เครื่องปั่น หม้อแขก 3 ใบ โถสแตนเลส 5 ใบ กระบวย ที่คีบ ส่งฟรีทั่วประเทศ. ... กำลังไฟฟ้า : 1300 วัตต์. Review สินค้าประมูลของจากเว็บ Chilindo ชุดเตาแม่เหล็กไฟฟ้าพร้อมหม้อต้ม ... https://www.youtube.com/watch?v=s35ZHPhyUxU วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 10:15 4 ส.ค. 2560 - อัปโหลดโดย Ekk Pimonsri CASIKO ชุดเตาแม่เหล็กไฟฟ้าพร้อมหม้อต้ม สินค้าประมูลของจากเว็บ Chilindo เมื่อวันที่ 1 สค 2560 ได้ของวันที่ 3 สค 2560 ครับ รายเอียดดังนี้ครับ CASIKO ... เตาแม่เหล็กไฟฟ้า Induction Cooker www.somkiet.com/Miscellaneous/InductionCooker.htm วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 2:06 1 พ.ย. 2554 - อัปโหลดโดย GE Appliances เตาแม่เหล็กไฟฟ้า Induction Cooker for energy saving cooking. Misawa เตาแม่เหล็กไฟฟ้า - YouTube https://www.youtube.com/watch?v=Q34E52sFmdM วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 23:01 25 ก.ค. 2560 - อัปโหลดโดย TrueShopping สนุกกับการสังสรรค์เมนู แบบสะดวก ปลอดภัย ร้อนไว ไม่ต้องใช้แก๊ส หน้าเตาเซรามิก ป้องกันลื่น ทำความสะอาดง่าย รหัสสินค้า 106382 【 พิเศษเพียง 1090 บาท 】 ... แกะกล่อง รีวิว เตาแม่เหล็กไฟฟ้า Imarflex รุ่น If-408 - YouTube https://www.youtube.com/watch?v=b8BhY9u2Hmg วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 11:44 15 ก.พ. 2561 - อัปโหลดโดย RF Channel เพิ่งได้มาจาก ลาซาด้า ในราคา 1290 บาท เห็นเขาว่ามันลดราคา กะเอามาต้มสุกี้ที่บ้าน อันเก่ามันเสียแล้ว (ขี้เกียจหาช่างซ่อม) ตรวจสอบราคาล่าสุด ... 17 เตาแม่เหล็กไฟฟ้า / Use and Care Induction Cooker - YouTube https://www.youtube.com/watch?v=n8b3u0WT8ME วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 8:24 7 พ.ค. 2557 - อัปโหลดโดย Rena Ware Thailand 17 เตาแม่เหล็กไฟฟ้า / Use and Care Induction Cooker. Rena Ware Thailand. Loading... Unsubscribe from Rena Ware Thailand? Cancel [Serrano]Kitchen Mix Set เซตเตา induction หม้อสุกี้ หม้อแขก 3 หม้อหุงข้าว ... www.highshopping.com/display/goods/30004719 วิดีโอสำหรับ เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w▶ 24:01 17 ต.ค. 2561 - อัปโหลดโดย HIGH SHOPPING [Serrano]Kitchen Mix Set เซตเตา induction หม้อสุกี้ หม้อแขก 3 หม้อหุงข้าว 1 ลิตร และตะหลิว 2 ... Serrano เตาแม่เหล็กไฟฟ้า. 2. ... กำลังไฟสูงสุด 1300 วัตต์ ประหยัดไฟ. 2. ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับผลการค้นหา เตาไฟฟ้า induction cooker set 1300w
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
SMART HOME Induction Cooker เซตเตาแม่เหล็กไฟฟ้า แถมฟรี เครื่องปั่น ... https://www.youtube.com/watch?v=dUDR_a-O-SU ▶ 24:01 28 พ.ย. 2560 - อัปโหลดโดย HIGH SHOPPING สนใจและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ HIGH SHOPPING Call Center โทร.02-1234-555 บริการ ตลอด 24 ชม. สั่งซื้อสินค้าทางเว็บไซด์ที่ ... 6 เตาแม่เหล็กไฟฟ้า / Induction Cooker - YouTube https://www.youtube.com/watch?v=lGwawIClDF4 ▶ 2:41 7 พ.ค. 2557 - อัปโหลดโดย Rena Ware Thailand KitchenAid Appliance Repair and Maintenance Self Help Videos 159,237 views · 5:52. Play next; Play now ... เตาแม่เหล็ก MISAWA พร้อม หม้อแขก (103395 Full ) - YouTube https://www.youtube.com/watch?v=3PbDSoUSgiI ▶ 29:31 14 มิ.ย. 2560 - อัปโหลดโดย TVDmomo Thailand เตา แม่เหล็ก MISAWAมีกำลัง ไฟ 1300 วัตต์ มาพร้อมกับหมวดการทำอาหารที่เลือกใช้งานได้ หลากหลาย เช่น ต้ม ตุ๋น สุกี้ ผัด ไฟ แรง ... [SERRANO] Induction cooker เซตเตาแม่เหล็กไฟฟ้า แถมฟรี หม้อสุกี้ เครื่อง ... www.highshopping.com/display/goods/30004249 ▶ 24:01 4 มิ.ย. 2561 - อัปโหลดโดย HIGH SHOPPING [SER